ผลการค้นหา “萨拉曼卡大学萨拉曼卡Diploma in Business Management{官网:ｚｊｗ２１１.ｃｏｍ}-萨拉曼卡大学萨拉曼卡Diploma in Business Managementpo[办证网:ｂｚｗ９８５.ｃｏｍ]-酒泉萨拉曼卡大学萨拉曼卡Diploma in Business Management-哪里办萨拉曼卡大学萨拉曼卡Diploma in Business ManagementTT” - ทรูไอดี

"SMB" บน TikTok For Business คืออะไร?

วันนี้ (30 ก.ค.63) TikTok แพลตฟอร์มสร้างสรรค์วิดีโอสั้นชั้นนำระดับโลก เปิดตัว TikTok For Business โซลูชั่นการตลาดสำหรับแบรนด์และธุรกิจขนาดต่างๆ ที่มุ่งเน้นการถ่ายทอดเรื่องราวของแบรนด์ในรูปแบบที่สร้างสรรค์ แปลกใหม่ และน่าสนใจ ซึ่งที่ผ่านมามีแบรนด์ชั้นนำทั้งในระดับโลกและในประเทศไทยต่างให้ความสำคัญและเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งบนแพลตฟอร์มการตลาดนี้เพื่อสร้างการรับรู้และมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์ไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยจุดเด่นของ TikTok คือ การสร้างสรรค์คอนเทนต์วิดีโอสั้นบนแพลตฟอร์มที่เกิดจากตัวผู้ใช้เองหรือที่เรียกว่า User-Generated Content (UGC) ซึ่งทำให้เกิดผลที่มากกว่าการสร้างการรับรู้ในตัวแบรนด์ แต่ยังรวมถึงการมีส่วนร่วมของผู้คนบนแพลตฟอร์มกับแคมเปญชาเลนจ์ต่างๆ ของแบรนด์ สิ่งนี้จึงทำให้ TikTok กลายเป็นอาวุธทางการตลาดที่สำคัญที่แบรนด์และธุรกิจในทุกขนาดต่างเลือกใช้ในปัจจุบัน ชนิสรา วงศ์ดีประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการร่วม บริษัทบรันช์ไทม์ จำกัด เจ้าของแบรนด์ Diamond Grains ผลิตภัณฑ์กราโนล่าคลีน เจ้าแรกในประเทศไทยกล่าวว่า จุดเริ่มต้นในการใช้แพลตฟอร์ม TikTok คือ เราไปเจอบทวิเคราะห์การตลาดที่บอกว่า TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่มาแรงและมีการเติบโตของผู้ใช้งานอย่างก้าวกระโดด ในฐานะเจ้าของแบรนด์จึงมีความสนใจในการนำแบรนด์ขึ้นมาอยู่บนแพลตฟอร์มเพื่อจะได้เกิดการขยายโอกาสในการสื่อสารแบรนด์บนแพลตฟอร์มใหม่ๆ โดยหลังจากที่ได้ใช้งานก็พบว่า TikTok ทำให้ได้อยู่ใกล้ลูกค้า ซึ่งเป็นคาแร็กเตอร์ของแบรนด์ Diamond Grains ที่ต้องการเข้าใจถึงปัญหาและสามารถดูแลลูกค้าได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้การที่ Diamond Grains มาอยู่บนแพลตฟอร์ม TikTok ยังสามารถทำให้มองเห็นปัญหาบางอย่างของผู้คนจำนวนมาก จนเกิดเป็นไอเดียใหม่ๆ ในการทำงานและนำไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ได้“นอกเหนือจากความสามารถในการเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถสร้างความผูกพันระหว่างแบรนด์กับกลุ่มเป้าหมายแล้ว TikTok ยังเป็นพื้นที่ในการสร้างเรื่องราวของแบรนด์ที่อาจจะเกิดเป็นกระแสไวรัลได้อีกด้วย เพราะ TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่จะช่วยเรียงร้อยคอนเทนต์ที่แบรนด์ต้องการสื่อสารออกไปให้ดูง่ายขึ้นและสนุกขึ้น และมากไปกว่านั้น TikTok สามารถทำให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีส่วนร่วมกับแบรนด์ได้กว้างขึ้นกว่าเดิม” ชนิสรา กล่าวทั้งนี้ จากการสำรวจ GWI หรือ Global Web Index ปี 2019 ซึ่งสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ที่ทำการตลาดบน TikTok พบว่า ผู้บริโภคกว่า 74% มีความคิดเห็นว่า ภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่มาอยู่บน TikTok จะมีความทันสมัยและน่าสนใจมากยิ่งขึ้นด้านกรณิการ์ นิวัติศัยวงศ์ Head of Client Partnership TikTok กล่าวว่า TikTok เป็นแพลตฟอร์มการตลาดที่จะช่วยให้ธุรกิจทุกขนาดสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด โดย TikTok For Business แพลตฟอร์มการตลาดออนไลน์บน TikTok จะเข้ามาช่วยสร้างการเติบโตให้กับแบรนด์และธุรกิจต่างๆ โดยได้จัด TikTok SMB Webinar เพื่อให้ธุรกิจทุกขนาดได้เรียนรู้ตั้งแต่พื้นฐานการทำการตลาดบนแพลตฟอร์ม TikTok For Business ในการช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3g7FKICนอกจากนี้TikTokยังให้ความสำคัญในการมุ่งมั่นที่จะช่วยสนับสนุนธุรกิจ SME ด้วยการมอบเครดิตโฆษณา 100 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจและแบรนด์ต่างๆ ได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหลังต้องเผชิญกับความเสี่ยงในสถานการณ์ป้องกันเรื่องสุขภาพของผู้คนในช่วงที่ผ่านมาด้วยที่ผ่านมามีแบรนด์ระดับโลกและแบรนด์ในประเทศเริ่มใช้ TikTok ในการสื่อสารเรื่องราวของแบรนด์แล้วมากมาย อาทิ ซัมซุง, ไนกี้, เมบิลลีน เป็นต้นข่าวที่เกี่ยวข้องTikTok เปิดโซลูชัน Self-Serve ตอบโจทย์ธุรกิจทุกขนาดทำความรู้จัก "Parental Control "บน TikTokTikTok เปิดตัว “TikTok For Business”เจาะตลาดแบรนด์สินค้า4 ตัวช่วยตั้งค่า ป้องกันการโดนแฮก TikTokผลสำรวจ พบ การทำตลาดบน TikTok ช่วยปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้ดีขึ้นเกาะติดข่าวที่นี่website: www.TNNTHAILAND.comfacebook : TNNONLINEfacebook live : TNN Livetwitter : TNNONLINELine : @TNNONLINEYoutube Official : TNNONLINEInstagram : TNN_ONLINETIKTOK : @TNNONLINE

Bitkub Chain รุก NFT for Business เปิดตัว Creative Studio แพลตฟอร์มการจัดการ NFT Solution ครบวงจร

#บิทคับ #ทันหุ้น - กรุงเทพมหานคร – 26 ธันวาคม 2566 บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด ผู้พัฒนาเครือข่าย Bitkub Chain และ Web3 Solution เปิดตัว Bitkub NFT Creative Studio แพลตฟอร์มสำหรับการสร้างและจัดการ NFT Solution ครบวงจร เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นของ ทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในการนำ NFT ไปใช้งานจริง ผ่านกิจกรรมทางการตลาดทั้งในรูปแบบ Online และ On-Ground เพื่อยกระดับสู่ประสบการณ์ WEB3 ที่เข้าถึงได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว และสามารถจัดการเองได้ผ่านแพลตฟอร์มเดียวนายภาสกร ปานนอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า “Bitkub NFT Creative Studio เป็นแพลตฟอร์มที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Bitkub NFT Creator Studio ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วย Creator และผู้ใช้งานภาคธุรกิจเพื่อสร้างสรรค์กิจกรรมและงาน Event โดยสามารถผสมผสาน NFT solution เข้าไปได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็น การสร้าง (Mint), การวางขาย, การทำกล่องสุ่ม (NFT Gashapon), การเปิดประมูล, การสร้างโพลสำหรับเปิดลงมติ Social DAO, การจัดเตรียม NFT Airdrop, การเปิดให้แลกรางวัลด้วย NFT, การสร้าง Virtual Galleryและการสร้าง QR Code สำหรับสแกนเพื่อรับ NFT ตลอดจนกิจกรรมที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยผู้ใช้งานสามารถออกแบบและสร้างกิจกรรมต่าง ๆ ได้เอง เพียงแค่มีบัญชี Bitkub NEXT ที่เชื่อมต่อเข้ากับแพลตฟอร์ม Bitkub NFT และ Creative Studio โดยใช้เหรียญ BCS เป็นหลักในการเข้าใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ”Bitkub NFT Creative Studio เป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนสามารถสร้างกิจกรรมทางการตลาดที่ผสานโลก WEB3 เข้ากับโลกจริง ยกระดับประสบการณ์แก่ผู้ใช้งานให้เข้าถึงและสัมผัสได้ง่าย โดย Bitkub Chain ได้นำประสบการณ์จากการประยุกต์ใช้ NFT ในการจัดกิจกรรมทั้งในรูปแบบ Online และ On-Ground ที่ประสบความสำเร็จและได้รับผลการตอบรับเป็นอย่างดี ยกตัวอย่างเช่น1.งาน Miss Universe Thailand 2022จัดกิจกรรม NFT Airdrop สร้าง NFT คอลเล็กชันพิเศษเพื่อแจกให้แฟนนางงามที่เข้ารับชมในรอบ Final ได้สามารถนำ NFT ที่ได้รับมาแลกรับเป็นของรางวัล เช่น เสื้อ ของที่ระลึกจากการประกวด บัตรเข้าชมการประกวด MiIss Universe Thailand เป็นต้น พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้สร้าง NFT ชิ้นพิเศษและจะมีเพียงชิ้นเดียวในโลก ผ่านฟีเจอร์ Creator Studio2.กิจกรรมร่วมทายผลการแข่งขัน ROV Pro League 2022Summer ของทีม Bacon Time ผ่าน Bitkub NEXT เพื่อรับรางวัลเป็นเหรียญ KUB และกิจกรรม Bacon Watch Party แจกการ์ด NFT Community 4 ระดับ ได้แก่ Common, Rare, Super Rare และ Ultra Rare ให้แฟนคลับทีม Bacon Time ทั่วประเทศที่ร่วมเชียร์ในศึก RoV Pro League 2022 Summer รอบ Champion Round หรือรับชมผ่าน LIVE โดยสแกน QR Code ที่ใช้กระเป๋า Bitkub NEXT3.กิจกรรมส่งเสริมการขาย “เถ้าแก่น้อย” ที่ให้ร่วมสะสม NFT ผ่านการซื้อขนมสาหร่ายเถ้าแก่น้อยคอลเล็กชันพิเศษ โดยภายในซองจะมีรหัส Redemption Code เพื่อนำมาแลกรับเป็น NFT ผ่านกระเป๋าเก็บสินทรัพย์ดิจิทัล Bitkub NEXT ซึ่งมี NFT ทั้งหมด 3 รูปแบบ ประกอบด้วย เรื่องราวของเถ้าแก่น้อย (Journey of Taokaenoi), เรื่องราวของบิทคับ (Journey of Bitkub) และหยิ่น วอร์ (Idol Yin War 9 Collections) เป็นคอลเลกชันพิเศษให้ผู้ใช้งานได้เก็บสะสมเพื่อรับรางวัลหรือร่วมกิจกรรมพิเศษสุด Exclusive กับศิลปินในดวงใจอย่าง หยิ่น วอร์4.ปรากฏการณ์ the 1st NFT Airdrop Phenomenon ครั้งแรกของการแจก NFT กว่า 30,000 ชิ้น ผ่านจอยักษ์ใจกลางเมืองผ่านจอดิจิทัลบริเวณรอบลาน Parc Paragon, หน้าตึก Interchange ใจกลางแยกอโศก และรอบลานหน้า CentralWorld เพื่อเชื่อมต่อผู้ใช้งานทุกคนเข้าสู่โลก NFT ที่แท้จริง บนเครือข่าย Bitkub Chain โดยจะได้ของขวัญพิเศษจาก Bitkub Chain เป็น NFT ที่สามารถ Redeem ผ่านกระเป๋า Bitkub NEXT เป็นเหรียญ KUB จำนวนรวมสูงถึง 1,000 KUB5.กิจกรรมส่งเสริมการขาย “NFT MAMA” เป็น NFT คอลเล็กชันแรกภายใต้แบรนด์ “มาม่า” บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน ณ งาน Sahagroup Fair ครั้งที่ 26 ซึ่งแจก NFT ผ่านการแอร์ดรอป โดยผู้ที่เก็บสะสม NFT ครบ 3 รูปแบบแล้ว จะสามารถแลกรับรางวัลสุดพิเศษ6.กิจกรรมประมูลผลงานศิลปะในรูปแบบ Phygital สุดล้ำ ที่ผสมผสานผลงาน Digital NFT ในโลกเสมือน และผลงาน Physical ในโลกจริงอย่างไร้รอยต่อ ร่วมกับ 129Art Advisory และ The Art Auction Center โดยมียอดการประมูลสูงถึง 81,682.36 KUB หรือ ประมาณ 11,802,285 บาท ณ เวลานั้นสำหรับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะกลุ่มเอเจนซีด้านการตลาดและอีเวนท์ออแกไนเซอร์ที่ต้องการนำเสนอความโดดเด่นร่วมกับ NFT และสนใจสร้างสรรค์ประสบการณ์ WEB3 ผ่าน NFT Solution นั้นสามารถสร้างผลงานผ่าน Bitkub NFT Creative Studio ได้แล้ววันนี้ที่ studio.bitkubnft.com พร้อมเตรียมพบกับฟังก์ชันใหม่ ๆ ที่จะมาช่วยส่งเสริมให้กับภาคธุรกิจและผู้ใช้งานทั่วไปได้พบประสบการณ์แห่งอนาคตได้ เร็ว ๆ นี้ติดตามข่าวสารและข้อมูลการพัฒนาโครงการต่าง ๆ ของบิทคับเชนได้ที่Website: https://www.bitkubchain.com/Facebook: https://www.facebook.com/bitkubchainofficialMedium: https://medium.com/bitkubchainTwitter: https://twitter.com/bitkubchainDiscord:https://discord.gg/WkJ6j279Telegram: https://t.me/+jiM6dAP5cxUzZTM1########เกี่ยวกับบริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัดบริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด เป็นบริษัทในกลุ่ม บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ. 2561 ด้วยทุนจดทะเบียน 778 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจกิจกรรมการบริการเทคโนโลยีสารสนเทศและคอมพิวเตอร์ รวมถึงการพัฒนาและออกแบบเทคโนโลยีบล็อกเชน บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด มีความมุ่งหวังที่จะสร้างเครือข่าย บิทคับเชน ให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนให้กับภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจ เพื่อกระจายโอกาสทางเศรษฐกิจและการเงินให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมกัน ด้วยเทคโนโลยีที่ให้ทั้งความปลอดภัยและความโปร่งใสสูงสุด พร้อมทั้งสามารถแลกเปลี่ยนมูลค่ากันได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องพึ่งพาตัวกลาง และต่อยอดให้เกิดการใช้บล็อกเชนรวมกับภาคอุตสาหกรรมขึ้นจริง

Finansia ร่วมกับ Principal Asset Management เปิดเวทีสัมมนา

Finansia ร่วมกับ Principal Asset Management เดินหน้าจัดกิจกรรมส่งเสริมทางเลือกด้านการลงทุนอย่างต่อเนื่องให้กับกลุ่มลูกค้ารายใหญ่รายพิเศษ (UHNW) ผ่านงานสัมมนา Steady Income, Lower Volatility: How Direct Lending Delivers in Uncertain Marketsนำโดย ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่ผลิตภัณฑ์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) และ คุณรณวัฒน์ ปรางทิพย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านพอร์ตโฟลิโอการลงทุน มาให้ความรู้ด้านการประยุกต์ใช้ และ ความเสี่ยงของ Alternative Asset ชนิด Private Debt เเบบ Direct Lending รวมถึงเเนะนำเเนวทางการจัดสรรพอร์ตโฟลิโอเเบบ Yield Enhancement โดยเพิ่มการลงทุนใน Direct Lending ร่วมกับ Asset Class อื่น เช่น หุ้น เเละ พันธบัตร เพื่อเพิ่มผลตอบเเทนต่อความเสี่ยงให้สูงขึ้นพร้อมกันนี้ยังได้รับเกียรติจาก คุณศุภจักร เอิบประสาทสุข Head of Investment Strategy บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล จำกัด ร่วมฉายภาพโอกาสการลงทุนPrivate Credit หนึ่งในสินทรัพย์ที่ควรมีในพอร์ตการลงทุน เนื่องจากให้ผลตอบแทนดีและสม่ำเสมอภายใต้ภาวะที่ตลาดการลงทุนมีความผันผวน โดยกองทุนเปิดพรินซิเพิล ไพรเวท เครดิต ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย มีจุดเด่นมุ่งเน้นลงทุนในPrivate CreditประเภทDirect Lendingที่มีหลักประกันและสิทธิในการเรียกร้องชำระหนี้เป็นลำดับแรก พร้อมทั้งเป็นเจ้าแรกในตลาดที่มองเห็นโอกาสการลงทุนใน Private Creditในกลุ่มMiddle Marketบริษัทขนาดกลางในสหรัฐฯ ที่มีความมั่นคง มีกำไรแข็งแกร่ง และให้Yieldสูงโดยมีการคัดเลือกและตรวจสอบอย่างเข้มงวด *ส่งผลให้ตั้งแต่เริ่มกลยุทธ์ อัตราการผิดนัดชำระหนี้จริงอยู่ที่ 0% ขณะที่ผลตอบแทนย้อนหลังของกลยุทธ์นี้อยู่ที่ 10–11% ต่อปี ทั้งในช่วง 1 ปี 3 ปี และตั้งแต่จัดตั้งกลยุทธ์ นอกจากนี้ กองทุนไทยมีนโยบายจ่ายกระแสเงินสดรายไตรมาส และเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 24 พ.ย.–4 ธ.ค. สำหรับนักลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ โดยมีเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 10,000 บาททั้งนี้ งานสัมมนาจัดขึ้นเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 ณ โรงแรมโซ แบงคอก ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่นักลงทุนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก สำหรับนักลงทุนที่สนใจ สามารถติดตามข่าวสารการสัมมนา Finansia ครั้งต่อไปได้จากเว็บไซต์: https://www.fnsyrus.com และ facebook : https://www.facebook.com/fnsyrus เพื่อติดตามหัวข้อสัมมนาดีๆ ที่มีประโยชน์ต่อนักลงทุนแบบนี้ตลอดทั้งปี*Source : Principal Private Credit fund presentation 2Q2025 / ผลการดำเนินงานในอดีต ไม่สามารถยืนยันผลตอบแทนในอนาคตกองทุนรวมสำหรับผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษเท่านั้นกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงสูงหรือซับซ้อนผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะของผลิตภัณฑ์ (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุนPRINCIPAL PCREDITUI จัดอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีความซับซ้อน ซึ่งทำให้แตกต่างจากการลงทุนในกองทุนรวมทั่วไป แม้ว่าผู้ลงทุนจะมีประสบการณ์กับกองทุนรวมอื่น ๆ ควรทำความเข้าใจความเสี่ยงและเงื่อนไขการลงทุนที่เฉพาะเจาะจงก่อนตัดสินใจลงทุนกองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วยกองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ที่อาจเกิดขึ้นได้จากการลงทุนในต่างประเทศตามความเหมาะสมและสภาวการณ์ในแต่ละขณะ  ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจที่ผู้จัดการกองทุนเห็นเหมาะสม จึงอาจยังมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินเหลืออยู่ ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนได้รับผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ในกรณีที่บุคคลใดมีสัดส่วนการลงทุนในกองทุนตั้งแต่ 10% ขึ้นไป ของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด บริษัทจัดการขอสงวนสิทธิในการคืนเงินส่วนที่ลงทุนตั้งแต่ 10% ขึ้นไปให้กับผู้ลงทุนผลการดำเนินงานในอดีตไม่ได้รับประกันผลการดำเนินงานในอนาคต

Service management คืออะไร?

การบริการหรือ Service management ความหมายคืออะไรกันนะ วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจกันสำหรับคนที่เรียนสายการท่องเที่ยวคงได้เรียนสิ่งนี้เป็นพื้นฐาน ซึ่งไม่ต่างกับตัวผมเองที่ต้องเรียน ก็คืออยากจะเอาสิ่งที่เรียนมา ลงไว้ใช้ประโยชน์ ให้เป็นประโยชน์แก่ตัวผมเอง ผู้อื่นบ้าง 555 ไม่พูดเยอะละครับ ไปดูกันเลยว่าความหมาย ลักษณะ ประเภทของการบริการมีอะไรกันบ้าง โกๆความหมาย  ของการบริการตามที่ผมได้เรียนมา ความหมายจะแบ่งเป็นตามนี้นะครับSERVICE ย่อมาจากSatisfaction   ความพึงพอใจExpectation   ความคาดหวังReadiness     ความพร้อมValues           ความมีคุณค่าInterest          ความสนใจCourtesy       ความมีไมตรีจิตEfficiency     ความมีประสิทธิภาพ ความหมาย ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554ได้ให้ความหมายของคำว่า “ บริการ ” ไว้คือการปฏิบัติรับใช้ ให้ความสะดวกสบายต่างๆความหมายโดยทั่วไป ก็ คือการให้ความช่วยเหลือ การทำประโยชน์ให้ผู้อื่น ซึ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือผู้มารับบริการ และ ผู้ให้บริการนั้นเองความหมายของการบริการตาม *Philip Kotler (1997)ได้ให้ความหมายไว้ว่า " กิจกรรมหรือการปฏิบัติต่างๆของกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งนำเสนอให้แก่อีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งไม่สามารถจับต้องได้และไม่สามารถเป็นเจ้าของได้ " (ไทยแปลไทยก็คือ สิ่งที่ผู้ให้เสนอแก่ผู้รับ และของสิ่งนั้นมันจับต้องไม่ได้ และเป็นเจ้าของครอบครองไม่ได้นั่นเอง)*** Philip Kotler คือ บิดาแห่งการตลาดสมัยใหม่ ปี 2005 ได้รับการยกย่องเป็น ผู้รอบรู้ในด้านการบริหารที่ทรงอิทธิพลที่สุดอันดับ 4 ของโลก จาก Financial Timesมีอีกคนหนึ่งที่ให้ความหมายคล้ายๆกันแต่ผมไม่ขอใส่ไว้กลัวเพื่อนๆ งง เพราะมันคล้ายๆกันเลย555 สรุปความหมายของการบริการความหมายทั่วไปเลย คือ การให้ความช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกสบายแก่ผู้รับบริการอย่างเอาใจใส่นั่นเองครับผมตัวอย่าง ของ Service management ที่มีประโยชน์ในปัจจุบันเช่น การบริการของที่พักโรงเเรมต่างๆ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ตอบสนองแก่ลูกค้าในเเต่ละระดับ โรงเเรมออกแบบการบริการออกมา ว่าการบริการนั้นจะเป็นอย่างไร อะไรบ้างที่ต้องเตรียมไว้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าหรือผู็ที่มาใช้บริการ ลูกค้าต้องการอะไรในกลุ่มเป้าหมายนี้ พวกนี้ คือ ตัวที่จะกำหนดการบริการขึ้นมา เพื่อให้ประโยชน์แก่ลูกค้าสูงสุด ตามนิยามของการบริการนั้นเองเพื่อให้เห็นภาพชัดมากขึ้นผมขอยกตัวอย่างอีกนิดหน่อยนอกจากโรงเเรม เช่นการบริการหลังการขายของสินค้าต่างๆการนวดสปา เพื่อสุขภาพต่างๆการบริการของร้านอาหารการบริการของระบบขนส่งมวลชนเป็นต้น ลักษณะเฉพาะของการบริการ1. ความไว้วางใจ เพราะการบริการไม่สามารถรับรู้ได้จากการมอง เราไม่รู้ล่วงหน้าว่าการบริการจะดีหรือไม่ ดังนั้นความไว้วางใจจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งต่างจากสินค้าที่จับต้องได้แต่การบริการจับต้องไม่ได้ 2. จับต้องไม่ได้การบริการไม่มีตัวตนไม่มีรูปร่างเหมือนสินค้าทั่วไป แต่ต้องใช้ความรู้สึกและได้รับประสบการณ์นั้นเอง อีกทั้งการบริการเองไม่สามารถทดลองใช้ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อได้ (ดังนั้นรีวิวจากผู้ใช้คนอื่น ๆ จึงมีประโยชน์มากที่จะช่วยในการตัดสินใจ)3. แยกจากกันไม่ได้ในเวลาของการให้บริการไม่สามารถแยกกันได้ เพราะต้องมีผู้ให้บริการและผู้รับ เช่น การนวด การตรวจโรคต่างๆ ไม่สามารถแยกจากกันได้4. ไม่สามารถแสดงความเป็นเจ้าของได้การบริการเกิดขึ้นแค่เวลาช่วงหนึ่งเท่านั้น เมื่อผู้ให้บริการบริการแก่ผู้รับบริการเสร็จสิ้น การบริการถึงว่าจบ เราไม่สามารถเอาติดตัวไปได้5. การบริการไม่มีความคงที่แน่นอนการบริการที่แตกต่างกัน แล้วแต่ผู้ให้บริการ และแล้วแต่แบรนด์ องค์กรตามประสิทธิภาพ  เราต้องเลือกเองว่าผู้ให้บริการไหนที่มีคุณภาพ และเราพอใจ6. ไม่สามารถเก็บรักษาไว้ได้ผู้ให้บริการต้องการผู้ที่จะมารับบริการ ถ้าไม่มีผู้มารับบริการ การบริการที่เตรียมไว้ก็สูญเปล่า การบริการต้องอาศัย “ คน ” เพราะผู้รับบริการหลักของงานบริการ คือ คน เช่นกัน เพราะเราต้องเข้าใจ อารมณ์ ความรู้สึกต่างๆ ของผู้รับบริการ องค์ประกอบของการบริการผู้รับบริการหน่วยบริการผู้ให้การบริการผลิตภัณฑ์ของการบริการลักษณะทางกายภาพและสภาพแวดล้อมของการบริการ ประเภทของการบริการแบ่งตาม World Trade Organization (WTO)มี 12 สาขาดังนี้1. การบริการด้านธุรกิจอาชีพ2. การบริการสื่อสารคมนาคม3. การบริการด้านการก่อสร้างและวิศวกรรมที่เกี่ยวกับการก่อสร้าง4. การบริการด้านการจัดจำหน่าย5. การบริการด้านการศึกษา6. การบริการด้านสิ่งแวดล้อม7. การบริการด้านการเงิน8. การบริการที่เกี่ยวเนื่องกับสุขภาพและการบริการทางสังคม9. การบริการด้านการท่องเที่ยว10. การบริการด้านนันทนาการ วัฒนธรรม และกีฬา11. การบริการด้านการขนส่ง12. การบริการด้านอื่นๆผมหวังว่าคุณจะได้รับประโยชน์จากบทความนี้นะครับ ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ทีนี้ด้วย เครดิตรูปภาพ 2 : https://pixabay.comเครดิตรูปภาพ 3 : https://pixabay.com รูปภาพทั้งหมดโดย : ผู้เขียนยกเว้น 2,3ข้อมูลโดยผู้เขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

Chapter 1: Project Management คืออะไร?

ไม่รู้ว่าอะไรดลจิตดลใจ อยู่ดีๆ ตัวผู้เขียนเองก็เกิดนึกครึ้มขึ้นมาว่าเราอยากจะแชร์เรื่องราวจากประสบการณ์ของตัวเองไว้เป็นเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ แก่ผู้ที่สนใจ ซึ่งก็นึกอยู่พักใหญ่ว่าจะเอาเนื้อหาอะไรมาเล่าสู่กันฟังก่อนดี จึงลองมองหาจากสิ่งที่ตัวเองมีก่อนว่าประสบการณ์อะไรที่คิดว่ามันน่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านได้ จึงบังเกิดไอเดียที่จะเขียนบทความในสิ่งที่ตัวผู้เขียนเองได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์มาจากการทำงานด้านการบริหารโครงการ (Project Management) เอาหละก่อนจะเข้าสู่รายละเอียดเกี่ยวกับการบริหารโครงการ ขอเกริ่นนำถึงประวัติของตัวผู้เขียนเองสักเล็กน้อย ผู้เขียนเองปัจจุบันได้เกษียณตัวเองจากงานประจำที่ทำอยู่ และมีโอกาสได้ทำงานด้านการบริหารโครงการมาหลากหลายโครงการ ทั้งโครงการของภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือแม้แต่หน่วยงานเอกชนต่างๆ ซึ่งมูลค่าโครงการที่ทำมาถือเป็นโครงการที่ค่อนข้างใหญ่มีมูลค่าหลักร้อย หลักพันล้านบาท ประสบการณ์จริงที่ได้เก็บเกี่ยวมาหลายปี ผู้เขียนจึงอยากจะแบ่งปันเรื่องราวให้กับผู้ที่สนใจ และหวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะครับธรรมชาติของงานโครงการในลักษณะงานที่เป็นรูปแบบงานโครงการ (Project-based) ส่วนใหญ่มักจะแบ่งระยะการดำเนินงานของโครงการ (Project phase) ออกเป็นสามระยะหลักๆ ดังนี้ระยะแรก:  Pre-project (การเตรียมโครงการ) ซึ่งในระยะนี้จะเป็นการเตรียมงานของโครงการ การออกแบบเนื้องานของโครงการ การกำหนดเงื่อนไข การกำหนดคุณลักษณะเฉพาะของโครงการ การกำหนดกฎเกณฑ์ และข้อบังคับของโครงการ ผลลัพธ์ที่จะได้มาของระยะนี้คือ ร่างขอบเขตของงาน (Terms of Reference: TOR) หรือเอกสารเชิญชวนยื่นข้อเสนอ (Request for Proposal: RFP) ทั้งนี้อาจรวมถึงขั้นตอนในการยื่นข้อเสนอ (Proposal submission) เพื่อการเข้าประมูล (Bidding) และอาจรวมถึงกระบวนการต่างๆ หลังจากการประกาศผู้ชนะ  ซึ่งยังมีอีกหลายกระบวนการย่อยที่มีรายละเอียดอีกค่อนข้างเยอะสำหรับงานส่วน "Pre-project" ไว้ผู้เขียนจะเล่าให้ฟังอีกครั้งในบทต่อๆ ไปนะครับระยะที่สอง: Project Rolled-out (การเริ่มงานโครงการ) หรืออาจจะเรียกว่า Design and Build (การออกแบบและพัฒนา) จะเป็นช่วงการดำเนินงานที่ผู้ชนะการประมูลจะต้องดำเนินการตามขอบเขตที่ระบุไว้ใน TOR หรือ RFP ภายในกรอบระยะเวลาที่กำหนดของการส่งมอบงานตามงวดงาน ซึ่งกรอบระยะเวลาการส่งมอบงานในแต่ละงวดงาน มักจะถูกกำหนดลงในร่างขอบเขตของงาน (TOR)ระยะที่สาม: Warranty (การรับประกัน) โดยมักจะมีระยะเวลารับประกันงานโครงการอย่างน้อย 1 ปี ที่ผู้ชนะการประมูลจะต้องดูแลต่อไปหลังจากตรวจรับและส่งมอบงานเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งหากเป็นหน่วยงานรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ ก็มักจะมีหนังสือแจ้งให้เริ่มงานในแต่ละระยะ หรือแม้แต่หน่วยงานเอกชนเองก็อาจจะมีเอกสารแจ้งให้ดำเนินการเหมือนกันหัวใจของการบริหารโครงการเอาหละครับ ที่กล่าวมาข้างต้น ก็เพื่อให้เข้าใจธรรมชาติของงานลักษณะโครงการเสียก่อน สำหรับการบริหารโครงการมักจะเกี่ยวข้องกับงานในระยะที่สองและสามเป็นหลัก ซึ่งในบางครั้งอาจจะรวมถึงการบริหารงานในระยะแรกด้วย แล้วการบริหารโครงการ (Project Management) คืออะไร? ผมขอใช้ภาษาง่ายๆ เลยนะครับ การบริหารโครงการก็คือ การกำกับดูแลเพื่อให้การส่งมอบงานเป็นไปตามขอบเขตของงานและเป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนด พูดให้ง่ายกว่านี้ก็คือทำอย่างไรก็ได้ให้งานเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนดและเป็นไปตามขอบเขตคุณลักษณะของโครงการ ซึ่งหัวใจหลักสำคัญของ Project Management ก็คือ Time (ระยะเวลา) และ Cost (ต้นทุน) โดยจะมีผู้ที่ทำหน้าที่ในการบริหารจัดการ ซึ่งก็คือผู้จัดการโครงการ (Project Manager) จะต้องดำเนินงานและบริหารเวลาให้การส่งมอบงานเป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนดโดยก่อให้เกิดความล่าช้าที่น้อยที่สุด อีกทั้งยังต้องควบคุมต้นทุนที่เกิดขึ้นให้อยู่ในงบประมาณที่ได้ประมาณการไว้ ทั้งนี้เพื่อให้งานที่ส่งมอบมีประสิทธิภาพและมีคุณภาพมากที่สุด ผู้เขียนขอเสนอเพิ่มหลักสำคัญอีกสองประการ ที่ตัวผู้เขียนเองมักจะยึดหลักปฏิบัติสำหรับการบริหารโครงการอย่างมืออาชีพมาโดยตลอด ซึ่งก็คือ Scope (ขอบเขตงาน) และ Quality (คุณภาพของงาน) บทสรุป Chapter 1ใจความของบทนี้ที่ผู้เขียนได้อธิบาย เพื่อต้องการให้ผู้อ่านเห็นภาพรวมธรรมชาติของงานโครงการ รวมถึงหัวใจหลักสำคัญของการทำการบริหารโครงการ (Project Management) เพื่อให้เกิดภาพของความเข้าใจเสียก่อน ก่อนจะลงลึกในบทถัดๆ ไป ซึ่งผู้เขียนตั้งใจที่จะถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ในขั้นตอนการทำงานสำหรับผู้ที่สนใจ หรือผู้ที่ต้องการศึกษา หรือผู้ที่กำลังทำงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารโครงการ โดยจะเล่าถึงขั้นตอนในแต่ละระยะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำ Pre-project ว่ากว่าจะมาเป็นโครงการนั้นมีความยุ่งยากอย่างไรบ้าง รวมถึงแนวทางการดำเนินงานเพื่อเตรียมตัวสำหรับการทำงานด้านการบริหารโครงการ อาทิเช่น การจัดทำต้นทุน การจัดทำ Cash flow การจัดทำแผนแม่บท (Master plan) การจัดทำแผนการส่งมอบงานย่อย (Project Delivery plan) เป็นต้น ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สิ่งที่ผู้เขียนได้ถ่ายทอดนั้นจะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทุกท่านนะครับ และขอให้ผู้อ่านทุกท่านติดตามในบทต่อๆ ไปที่ผู้เขียนจะเขียนมาให้อ่านอีกต่อๆ ไปนะครับภาพประกอบหน้าปก ภาพปก 1 โดย fauxels จาก pexels.comภาพที่ 1 โดย Pressfoto จาก freepik.comภาพที่ 2 ภาพทำเองจาก Powerpointภาพที่ 3 ภาพทำเองจาก Powerpointภาพที่ 4 โดย Mikael Blomkvist จาก pexels.comเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

เริ่ดมาก! “ฟรีน-เบ็คกี้” สมาชิกใหม่ “The Venture Management” ทำพุ่งติดเทรนด์

เริ่ดมาก! ฟรีน-เบ็คกี้ สมาชิกใหม่ The Venture Management ทำพุ่งติดเทรนด์ ต้องบอกว่าคู่นี้เขาสวยแบบแพ็คคู่กันไปเลย สำหรับ ฟรีน สโรชา และ เบ็คกี้ รีเบคก้า แถมยังจับมือกันปังด้วย เพราะเมื่อปีที่แล้วเดินสายรับรางวัลเพียบ จนไม่รู้ว่าจะเอาถ้วยรางวัลแต่ละสาขาไปไว้ที่ไหนแล้ว ซึ่งช่วงนี้ ฟรีน-เบ็คกี้ กำลังลุยดินหน้าถ่ายทำหนัง ยูเรนัส 2324 และซีรีส์พีเรียดย้อนยุคเรื่องใหม่ ปิ่นภักดิ์ เพื่อให้ทันออนแอร์ภายในปีนี้ ล่าสุดมีข่าวดีมาให้เหล่าแฟนคลับของสองสาวดีใจแบบตะโกน เมื่อทาง บริษัทเอเจนซี่ The Venture Management ของ คุณป่าน ณิชาภัทร ได้ประกาศเพิ่ม 2 สมาชิกใหม่ เข้ามานั่นก็คือ ฟรีน กับ เบ็คกี้ ซึ่งก่อนหน้านี้มี กลัฟ,มาย-อาโป,ไบเบิ้ล และ ใหม่ ดาวิกา งานนี้เหล่าแฟนคลับเลยส่งเสียงแห่งความปลื้มปิติ ทำให้แฮชแท็ก #TheVentureXFreenBecky ติดเทรนด์อันดับที่ 2 และคีย์เวิร์ค SAROCHA REBECCA GO GLOBAL อันดับที่ 3 เอาเป็นว่าแฟนๆรอดูได้เลย เพราะงานโกอินเตอร์ต่างๆ เราคงจะได้เห็น ฟรีน-เบ็คกี้ ไปร่วมงานมากขึ้นแน่นอนจ้า

ผู้ประกอบการเตรียมเฮ Apple Music For Business เปิดเพลงในร้าน ไม่ติดลิขสิทธิ์

ปัญหาลิขสิทธิ์เพลงที่เปิดในร้าน ของผู้ประกอบการ ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ฯลฯ ดูเหมือนจะเป็นปัญหาที่ผู้ประกอบการทั้งโลกต้องประสบพบเจอ แต่ต่อจากนี้ ปัญหานี้จะหมดไป  เมื่อ Apple จับมือกับ Playnetwork  เปิดตัว Apple Music For Business แอพสตรีมเพลงสำหรับ ร้านค้า ร้านอาหาร ที่จะเข้ามาแก้ปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ ให้คุณลูกค้าได้ฟังเพลงเพราะๆ ส่วนพ่อค้าแม่ค้าก็สบายใจหายห่วง Photo https://images.app.goo.gl/raNiWw6ERAVMhhkr8 ซึ่ง Apple Music For Business จะเข้ามาแก้ปัญหาการใช้เพลงเชิงพาณิชย์ ที่ผู้ใช้ Spotify และ Apple music หรือ แอพให้บริการสตรีมเพลงเจ้าอื่นๆ ประสบกับปัญหาลิขสิทธิ์เนื่องจาก แอพเหล่านี้เป็นแอพให้บริการสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปเท่านั้น โดย Apple Music For Business  จะมีค่าใช้จ่ายในการให้บริการรายเดือนสูงกว่า Apple Music แต่จะมีฟีเจอร์ที่ให้บริการได้หลากหลายกว่า Apple music เช่น การเล่นเพลงแบบสุ่ม โดยที่คุณสามารถตั้งค่าให้แอพ สุ่มเล่นเฉพาะเพลงที่เข้ากับบรรยากาศร้านได้ โดย Apple Music For Business จะให้บริการบนระบบปฎิบัตการ์ณ IOS  อย่าง Ipad,Iphone,Macbook และ เครื่องเล่นเพลง Curioplayer z8 Photo https://images.app.goo.gl/ZpNwhin6WRQ4Q2yG8 นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังสามารถเชื่อมต่อ Apple Music For Business กับหน้าจอทีวีภายในร้านได้ เพื่อแสดงข้อมูลเกี่ยวกับ Playlist และ เพลง ให้ลูกค้าสามารถดูได้ว่าเพลงที่ฟังอยู่คือเพลงอะไร และถ้าหากชอบใจ ลูกค้าก็สามารถสแกน Qr Code บนหน้าจอ เพื่อเข้าใช้งานบน Apple Music และถ้าหากลูกค้าสมัครใช้งาน Apple Music ผ่าน Qr code Apple ก็จะมีส่วนแบ่งให้กับผู้ประกอบการอีกด้วย Photo https://images.app.goo.gl/BWDbWQJ7RmfZrWZJ7 ในตอนนี้ Apple อาจจะยังไม่ออกมาเปิดเผยข้อมูลการให้บริการ ในแต่ละประเทศมากนัก และเราก็ยังไม่รู้ว่า ผู้ประกอบการของไทยจะได้ใช้งานจริงๆเมื่อไหร่ แต่แน่ใจได้เลยว่าจะแก้ปัญหา การไล่จับลิขสิทธิ์ได้อย่างแน่นอน ในตอนนี้ทาง Apple ได้เริ่มทดลองให้บริการนี้แบบ Beta กับห้างสรรพสินค้า Harrods และ ร้านขายเสื้อผ้า Levi ในประเทศอังกฤษ  Photo https://images.app.goo.gl/BjkwCBZTcX8nziVa8

รีวิวซีรีส์เกาหลี แผนคู่จิ้นพิชิตฝันไอดอล(2023) Bump Up Business ทาง iQIYI

สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวซีรีส์เกาหลีของทาง iQIYI เรื่อง แผนคู่จิ้นพิชิตฝันไอดอล หรือ Bump Up Business มีทั้งหมด 8 ตอน ตอนละ 15 นาที สมาชิกออกอากาศทุกวันศุกร์ 11.00 น. วันละ 2 ตอน นำแสดงโดย Lee Yong Soo รับบท คังอีดึน และ Jung Wook Jin รับบท กงจีฮุนเป็นเรื่องราวของคังอีดึนที่เป็นเด็กฝึกที่เพิ่งได้เดบิวต์ครั้งแรก เขานั้นด้วยความที่มีความสามารถรอบด้านทั้งการร้องเพลง การแสดง อยู่ต่างประเทศมานานทำให้พูดภาษาอังกฤษได้จึงมีความสามารถในการแข่งขันระดับนานาชาติ ทั้งยังเป็นที่รู้จัก จึงได้รับคัดเลือกให้มาเดบิวต์เป็นศิลปินวง Lion Heart คู่กับกงจีฮุนที่เมื่อ 2-3 ปีก่อนเคยเดบิวต์มาแล้ว 1 ครั้ง อาศัยหน้าตาและทักษะการร้องเพลงที่โดดเด่นทั้งยังเคยร่วมก่อตั้งวงดูโอกับโดฮยอนบินศิลปินแนวหน้า โดยบริษัทเสนอให้ทั้งคู่เป็นคู่จิ้นกันเพื่อเพิ่มกระแสความดัง ตอนแรกคังอีดึนก็ดูเหมือนจะปฏิเสธแต่เพราะหากปฏิเสธเขาจะพลาดโอกาสเดบิวต์ไปเขาจึงตกลง ส่วนกงจีฮุนบริษัทเสนอว่าให้เดบิวต์อีกรอบเพื่อกอบกู้ภาพลักษณ์ของตนเองเพราะเขานั้นเคยพัวพันกับข่าวฉาวมากมายเลยไม่ดังเหมือนแต่ก่อน เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ทั้งคู่จะทำสำเร็จหรือไม่ก็ต้องไปดูกันคังอีดึนเป็นเด็กฝึกที่เพิ่งจะได้เดบิวต์ เขาเป็นคนอัธยาศัยดี เรียบร้อย น่ารัก ทั้งยังสดใส ร่าเริง เขานั้นด้วยความที่เพิ่งเดบิวต์จึงไม่มีทางเลือกมากนักจึงตกลงแสดงเป็นคู่จิ้นกับจีฮุนโดยไม่ค่อยเต็มใจ เวลาจีฮุนเข้าหาสร้างโมเมนต์ตอนแรกๆจึงดูเกร็งๆ ไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ นักแสดงแสดงได้ดูเรียบร้อย น่ารักกงจีฮุนเป็นคนนิ่งๆ เย็นชานิดๆ ด้วยความที่ต้องแสดงเป็นคู่จิ้นกับอีดึนจึงพยายามสร้างโมเมนต์ให้ตนเองกับอีดึน แต่แสดงออกมาได้ดูธรรมชาติมากจนเหมือนกับว่าเขาชอบอีดึนจริงๆ เป็นคนที่ดูเป็นผู้ใหญ่ พึ่งพาได้ นักแสดงแสดงได้ดูนิ่งๆ เท่ๆเสื้อผ้าตอนพักผ่อนถึงจะเป็นชุดธรรมดาแต่กลับใส่ออกมาแล้วดูดีทั้งคู่ ส่วนชุดใส่ทำงานและชุดถ่ายแบบก็ดูเท่มาก ดูดีสุดๆ ด้วยความที่ทั้งคู่เป็นศิลปินจึงดูเข้าใจแฟชั่น ชุดจึงออกมาดูเข้ากับบุคลิกและหน้าตา ฉากมีความเรียบหรูดูดี เป็นตึกสำนักงานที่เก็บตัวศิลปิน มีทั้งยิมที่ดูใหญ่ ห้องประชุมที่ดูหรูหรา ส่วนห้องซ้อมก็จัดว่าดูดี ส่วนตัวชอบชุดกับฉากเรื่องนี้ค่ะ ทำออกมาได้ดูดีทีเดียวพล็อตเรื่องคือหลังจากฝึกฝนมา 5 ปี อีดึนก็ได้เดบิวต์และได้มาเป็นศิลปินคู่จิ้นกับจีฮุนรุ่นพี่ในสังกัดเดียวกัน ตอนแรกอีดึนก็ไม่เต็มใจมาแสดงเป็นคู่จิ้นกับจีฮุนแต่เพราะอยากทำตามความฝันของตัวเองจึงตัดสินใจตกลง ทั้งคู่ได้เดบิวต์เป็นดูโอวง Lion Heart ทั้งคู่จึงมีโอกาสได้ใช้ชีวิตร่วมกันในฐานะคู่จิ้นที่บริษัทบอกว่าให้คงคอนเซปต์ขายความจิ้นในชีวิตส่วนตัวด้วย ในขณะเดียวกันเมื่อดาราดังอย่างฮยอนบินและเจย์ปรากฏตัว ความเข้าใจผิดระหว่างจีฮุนกับอีดึนก็ก่อตัวขึ้น พวกเขาจะสามารถจัดการกับความเข้าใจผิดและค้นพบความรู้สึกของกันและกันได้หรือไม่ก็ต้องไปดูกัน เดินเรื่องได้กระชับ ไม่อืดอาด ถือว่าทำได้ดีอยากให้ดูเรื่องนี้เพราะเคมีนักแสดงดีมาก ชอบตอนที่ทั้งคู่พยายามสร้างโมเมนต์ที่ดูเรียลมาก เนื้อเรื่องก็น่าติดตาม อยากให้ไปดูค่ะอ้างอิงภาพปก1, ภาพปก2 ตกแต่งโดย canvaภาพที่1, ภาพที่2, ภาพที่3, ภาพที่4 ขอบคุณภาพจาก twitter: iQIYI.Thailand และ OnlyOneOf.official จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !

รีวิว Business As Usual แผนรักฉบับออฟฟิศ...เมื่อแฟนเก่ากลายมาเป็นเพื่อนร่วมงานใหม่

       Business As Usual แผนรักฉบับออฟฟิศ (2025) ซีรีส์บอยเลิฟสัญชาติเกาหลีมาใหม่ประจำเดือนเมษายน นำเสนอเรื่องราวความรัก ความสัมพันธ์ของแฟนเก่าที่หวนย้อนกลับมาพบกันอีกครั้งในรอบ 8 ปี พร้อมกับสถานะพนักงานคนใหม่ของบริษัทที่ต้องเจอหน้ากันทุกวัน แล้วผลลัพธ์สุดท้ายความใกล้ชิดจะสามารถรื้อฟื้นความรักเก่า ๆ ในอดีต หรือจะสร้างความเจ็บปวดให้มากขึ้น?...ซีรีส์มีจำนวนทั้งหมด 6 ตอน + ตอนพิเศษ ออกอากาศทุกวันพฤหัสบดี เวลา 4 โมงเย็น (ซีรีส์มีคำบรรยายภาษาไทย) รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!!        ซีรีส์เรื่องนี้ดัดแปลงจากมังงะเรื่อง ‘Eul’s Love’ ของนักเขียนนามปากกา ‘Moscareto’ ผู้เขียนเดียวกับเรื่อง The New Employee ซึ่งในเวอร์ชั่นซีรีส์คนแสดงกำกับโดย ‘มินแชยอน’ เจ้าของผลงานการกำกับเรื่อง Happy Merry Ending (สุขสันต์วันแห่งรัก) นำแสดงโดย ‘ซองซึงฮา’ และ ‘แชจงฮยอก’     เรื่องย่อ        'คิมมินจุน' (รับบทโดย แชจงฮยอก) พนักงานบริษัทวัย 30 ปีที่ดำเนินชีวิตประจำวันตามรูปแบบเดิมทำให้ชีวิตของเขามีแค่งานกับงาน และไม่เคยมีเรื่องอื่นมาเกี่ยวข้อง ชีวิตของมินจุนดำเนินไปด้วยความเรียบง่ายนับตั้งแต่เรียนจบมา และคงเพราะเหตุนี้โชคชะตาถึงได้ส่ง ‘แชจินฮวาน’ (รับบทโดย ซองซึงฮา) พนักงานคนใหม่ให้เข้ามาเป็นเพื่อนร่วมงานของมินจุน ทว่าเพื่อนร่วมงานคนนี้กลับยังพ่วงด้วยตำแหน่ง ‘แฟนเก่า’ ซึ่งเป็นรักแรกที่มินจุนทั้งรักทั้งเกลียดเพราะสิ่งที่อีกฝ่ายเคยทำไว้ในอดีตเมื่อ 8 ปีก่อน ดังนั้นเมื่อกลับมาเจอกันคราวนี้เขาจึงตัดสินใจรักษาระยะห่างกับแฟนเก่าคนนี้เพื่อไม่ให้หลวมตัวหลวมใจหลงเสน่ห์ของผู้ชายคนนี้อีก แต่ดูเหมือนว่าจินฮวานกลับเลือกใช้โอกาสนี้เพื่อรุกเข้าหามินจุนอีกครั้ง…แล้วท้ายที่สุดโอกาสครั้งที่สองจะเกิดขึ้นหรือไม่ หรือสุดท้ายแล้วจะกลายเป็นเพียงการสร้างความเจ็บปวดให้คนที่จมอยู่กับความเสียใจมาตลอดหลายปีอีกครั้ง     แนะนำตัวละครหลัก คิมมินจุน รับบทโดย แชจงฮยอก          คิมมินจุน พนักงานบริษัทอายุ 30 ปี เป็นคนตั้งใจทำงานและสามารถปรับตัวตามสภาพแวดล้อมได้ดี ใช้ชีวิตไม่หวือหวา เป็นตัวละครที่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับอดีตจะสร้างกำแพงขึ้นเพื่อปกป้องความรู้สึกของตัวเองไม่ให้เจ็บปวดกับคนเดิมซ้ำซาก ดังนั้นการกลับมาพบกับแฟนเก่าอีกครั้งในรอบ 8 ปี มินจุนจึงพยายามรักษาระยะห่าง แต่เพราะความรู้สึกในใจที่ยังตัดไม่หมดส่งผลให้ในบางสถานการณ์ที่ดูคลุมเครือจากการกระทำของแฟนเก่าทำให้มินจุนเกิดความสับสนและลังเลต่อความรู้สึกแท้จริงของตัวเอง   แชจินฮวาน รับบทโดย ซองซึงฮา          แชจินฮวาน พนักงานใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาทำงานในบริษัท และเป็นรักแรกพ่วงตำแหน่งแฟนเก่าของมินจุน จินฮวานภายนอกดูเป็นคนแอคทีฟตลอดเวลา มีมนุษยสัมพันธ์ดี และเข้ากับทุกคนได้ง่าย แต่เรื่องความสัมพันธ์ในฐานะคนรัก จินฮวานนับว่าเป็นผู้ชายที่ถูกปักธงแดงตั้งแต่ต้น นั่นทำให้การเข้าหามินจุนของจินฮวานหลังทั้งคู่กลับมาพบกันอีกครั้งสร้างความสับสนและความสงสัยว่าภายใต้การกระทำที่ดูเหมือนพยายามสร้างโอกาสให้ตัวเองได้ใกล้ชิดกับมินจุน จริง ๆ แล้วจินฮวานอยากได้โอกาสครั้งที่สองเพื่อเริ่มต้นใหม่ หรือเพียงแค่ต้องการเอาชนะคนรักเก่าเท่านั้น     รีวิว Business As Usual แผนรักฉบับออฟฟิศ จากมุมมองของครีเอเตอร์          Business As Usual มีพลอตเรื่องในแบบที่หลายคนคุ้นเคยซึ่งเมื่อเนื้อเรื่องดำเนินถึงจุดหนึ่งคนดูก็จะสามารถคาดเดาเรื่องทั้งหมดได้ แต่ซีรีส์ทำให้กลายเป็นจุดดึงความสนใจด้วยการเริ่มต้นเล่าด้วยประเด็นดราม่าในความสัมพันธ์ และยังเป็นเหตุผลหลักให้พระนายเปลี่ยนจากคนรักย้ายมาอยู่ในสถานะแฟนเก่า เรียกว่าเป็นการปูเรื่องเพื่อให้คนดูมีอารมณ์ร่วมไปกับความรู้สึกด้านลบที่มีต่อพระเอกและติดตามรอดูผลตามมาหลังจากนั้น โดยนักแสดงก็สามารถถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึกผ่านตัวละครให้คนดูคล้อยตามได้เป็นอย่างดีแม้ว่าจะเป็นการรับบทนำครั้งแรกของทั้งซองซึงฮา และ แชจงฮยอก        ลักษณะการดำเนินเรื่องของซีรีส์ค่อนข้างจะเล่าอย่างรวดเร็วเพราะมีจำนวนเพียง 6 ตอน ซึ่งสอดคล้องกับต้นฉบับที่เป็นมังงะเรื่องสั้น โดยจะเน้นเล่าด้วยการดำเนินเรื่องไปตามพลอตเรื่องหลักเพียงอย่างเดียว และในตอนแรกของซีรีส์จะเริ่มเล่าให้คนดูเห็นว่าความสัมพันธ์ของมินจุนและจินฮวานเมื่อ 8 ปีก่อนเป็นอย่างไร เกิดอะไรขึ้นบ้าง และเพราะอะไรทั้งคู่จึงได้กลายมาเป็นแฟนเก่า ก่อนจะค่อย ๆ เล่าปัจจุบันสลับกับอดีตเพื่อให้คนดูได้ประติดประต่อเรื่องราวทั้งหมดด้วยตัวเองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นแค่ความเข้าใจผิด หรือเป็นเรื่องที่จินฮวานกลับมากลืนน้ำลายตัวเองทีหลัง โดยในส่วนของเนื้อเรื่องขออนุญาตไม่สปอยเพื่อให้ทุกท่านได้ร่วมลุ้นติดตามกันในเรื่องเต็มนะคะ           Business As Usual แผนรักฉบับออฟฟิศ ซีรีส์เกาหลีที่อยากแนะนำให้ผู้ชื่นชอบสายดราม่าความสัมพันธ์กับพระเอกติดธงแดงในช่วงต้นได้รับชม เพราะซีรีส์เรื่องนี้จะนำพาทุกท่านไปสัมผัสกับเรื่องราวความสุข ความเศร้าและความเจ็บปวดของคนสองคนที่พัฒนาจากเพื่อนสู่สถานะคนรัก ก่อนเหตุการณ์บางอย่างจะเปลี่ยนให้พวกเขากลายเป็นคนแปลกหน้าแล้ววนเวียนกลับมาพบกันอีกครั้งในฐานะเพื่อนร่วมงานพ่วงสถานะแฟนเก่า   รายละเอียดซีรีส์ เรื่อง : Business As Usual ชื่อไทย : แผนรักฉบับออฟฟิศ ประเภท : โรแมนติก, ดราม่า ผู้กำกับ : มินแชยอน นักแสดง : ซองซึงฮา, แชจงฮยอก, จองโดมยอง, อีอึยซอบ, อีซังวอน จำนวน : 6 ตอน ความยาวตอนละประมาณ 28 นาที + ตอนพิเศษ ออกอากาศ : วันที่ 3 เมษายน - 8 พฤษภาคม 2025 ออกอากาศทุกวัน พฤหัสบดี เวลา 4 โมงเย็น ซีรีส์มีคำบรรยายภาษาไทย   บทความแนะนำซีรีส์บอยเลิฟอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ทำความรู้จัก Secret Relationships 2025 ซีรีส์บอยเลิฟเกาหลี เรื่องราวสัมพันธ์ลับซ่อนรักของดาอนกับชายหนุ่ม 3 คน แนะนำ/รีวิว Top Form กอดกันมั้ยนายตัวท็อป นำแสดงโดย สมาร์ท-บูม ทำความรู้จักซีรีส์ BL กระแสแรง 'Love in the Big City' (2024) เรื่องราวชีวิตและความรักของหนุ่ม LGBTQ+ ในเมืองใหญ่ นำแสดงโดย นัมยุนซู, จินโฮอึน เริ่ม 21 ตุลาคม [แนะนำ/รีวิว] 'ทรงจำในอักษร' (Memory in the letter) ซีรีส์ BL แฟนตาซีคุณภาพจากค่ายน้องใหม่ที่อยากให้ถูกค้นพบ...เรื่องราวของคนสองโลกที่ถูกคั่นกลางด้วยกระจก? [จบแล้ว]     เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพปก จาก WSTORY_0501 ภาพประกอบจาก : WSTORY_0501 ภาพที่ 1, 2.1,3.1,4, 2.2, 3.2, 5    เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !              

TikTok เปิดตัว TikTok For Business รองรับดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง

TikTok เปิดตัวแพลตฟอร์มการตลาดดิจิทัลTikTok For Business ที่มาพร้อมจุดเด่นการเป็นโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ทุกเป้าหมายการตลาดแบบครบวงจรสำหรับแบรนด์และธุรกิจในทุกขนาด โดยประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดกลยุทธ์ที่มีการเติบโตของผู้ใช้และอีโค่ซิสเต็มบนแพลตฟอร์มที่สมบูรณ์แบบเพื่อช่วยยกระดับการทำตลาดดิจิทัลให้กับแบรนด์และธุรกิจต่างๆ ในประเทศไทย สิรินิธิ์ วิรยศิริ Head ofBusiness Marketing – Thailand กล่าวว่า ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งถือเป็นปัจจัยความสำเร็จของแบรนด์และธุรกิจในยุคปัจจุบันสังเกตได้จากการเติบโตของมูลค่าการโฆษณาในสื่อออนไลน์ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยในปี 2563 นี้ คาดว่าจะมีเม็ดเงินโฆษณาในสื่อออนไลน์เพิ่มสูงขึ้นถึง 2.03 หมื่นล้าน หรือเติบโต 12%จากปีที่ผ่านมา (ข้อมูลจากสมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย)โดยคาดว่ามูลค่าการโฆษณาในสื่อออนไลน์จะเป็นเซ็กเมนต์เดียวที่มีการเติบโตท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ทุกธุรกิจต้องรัดเข็มขัดและรัดกุมกับการใช้งบประมาณการตลาดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดTikTok For Business เป็นโซลูชั่นทางการตลาดสำหรับแบรนด์และธุรกิจด้วยจุดเด่นของการเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่การสร้างการรับรู้ (Awareness) การมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค (Engagement) พร้อมต่อยอดไปถึงการพิจารณาเลือกซื้อ (Consideration) สู่การตัดสินใจซื้อ (Conversion) หรือเรียกได้ว่าเป็น Full-Funnel Marketing Solution แพลตฟอร์ม TikTok ที่จะช่วยตอบโจทย์เทรนด์คอนเทนต์วิดีโอสั้นที่กำลังมาแรงที่จะช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างสรรค์และทำการโฆษณาในรูปแบบวิดีโอสั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องใช้งบโปรดักชั่นเพิ่มเติมสิรินิธิ์ กล่าวว่าเทรนด์ความนิยมของคอนเทนต์วิดีโอสั้นถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ จำนวนมากกว่า 3 ใน 4 ของผู้ใช้ TikTok ในประเทศไทยเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมกับกิจกรรมของแบรนด์ และพูดคุยเกี่ยวกับแบรนด์ จึงถือได้ว่า TikTok For Business คือคำตอบของการทำตลาดดิจิทัลรูปแบบใหม่สำหรับแบรนด์และธุรกิจในทุกขนาดที่มอบประสิทธิภาพสูงสุดในการบรรลุทุกเป้าหมายการตลาดแบบครบวงจรและยังจะเป็นการตอบรับกับเทรนด์วิดีโอสั้นที่ผู้คนทั่วโลกรวมทั้งในประเทศไทยกำลังให้ความสนใจในปัจจุบัน”นอกจากนี้แล้ว TikTok ForBusiness ยังมาพร้อมการเปิดมุมมองใหม่ในการทำการตลาดดิจิทัลด้วยกลยุทธ์การสร้าง Brand Storytelling ในรูปแบบ Brand Takeover: การโฆษณาในตำแหน่งแรกก่อนเข้าหน้า Feed, Top View: การโฆษณาในตำแหน่งแรกในหน้า Feed, In-Feed Ads: รูปแบบโฆษณาที่จะปรากฏขึ้นระหว่างการแสดงคอนเทนต์ในหน้าFeed เป็นต้น“ด้วยความหลากหลายของรูปแบบโฆษณาบนTikTok และความพร้อมของแพลตฟอร์มที่มีการขยายฐานไปสู่กลุ่มผู้ใช้ที่หลากหลายมากขึ้น โดยในวันนี้เราพบว่ากลุ่มผู้ใช้ TikTok ในประเทศไทยเป็นกลุ่มอายุ16 - 34 ปี คิดเป็นสัดส่วน 60% และมากกว่า 80% เป็นกลุ่มนักศึกษาและคนทำงานรุ่นใหม่ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและกำลังเป็นที่จับตาของแบรนด์และนักการตลาดในปัจจุบันจึงส่งผลให้ TikTok กลายเป็นแพลตฟอร์มการตลาดแห่งยุคที่ตอบโจทย์เทรนด์การตลาดรูปแบบใหม่ทั้งVideo Marketing, Challenge Marketing, Hashtag Marketing และ Influencer Marketing” สิรินิธิ์ กล่าวเสริมTikTok For Business เป็นแพลตฟอร์มการตลาดที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจในทุกขนาดตั้งแต่ใหญ่-กลาง- เล็ก SMEs ในประเทศไทยซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีความสำคัญต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยด้วยความสามารถในการสร้างรายได้กว่า2.8 ล้านล้านบาทในครึ่งปีแรกของปี 2563 หรือคิดเป็น 34% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์รวมในประเทศไทย (GDP)“TikTok For Business” จะเป็นโซลูชั่นที่เข้ามาเติมเต็มและเสริมศักยภาพด้วยแพลตฟอร์มการตลาดดิจิทัลที่จะตอบโจทย์ธุรกิจได้อย่างลงตัวเพื่อช่วยให้ SMEs สามารถก้าวข้ามทุกขีดจำกัดได้และจะเป็นคำตอบของนักการตลาด นักโฆษณารวมไปถึงผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆที่จะช่วยให้แบรนด์และธุรกิจสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและช่วยให้การทำการตลาดสามารถบรรลุทุกความต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพครบวงจร” สิรินิธิ์

TikTok เปิดตัว “TikTok For Business”เจาะตลาดแบรนด์สินค้า

วันนี้ (26 มิ.ย.63) TikTok แพลตฟอร์มสร้างสรรค์วิดีโอสั้น ที่ได้เปิดตัว TikTok For Business ไปเมื่อวานนี้ โดยชูการเป็นแพลตฟอร์มการตลาดระดับโลก ที่ช่วยถ่ายทอดเรื่องราวของแบรนด์อย่างสร้างสรรค์ แหวกแนว และน่าสนใจยิ่งกว่าเดิม เพื่อช่วยให้แบรนด์และนักการตลาดในประเทศไทยสามารถเข้าถึงและสร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ใช้จำนวนมากที่อยู่บนแพลตฟอร์ม TikTok สามารถค้นพบแบรนด์ได้ง่ายยิ่งขึ้นโดยอนพัทย์ สุวรรณสุทธิ Client Partnership Lead กล่าวว่า TikTok for Business ถือเป็นการเปิดโอกาสในการสร้างเนื้อหาที่แบรนด์ต้องการสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย และเชิญชวนให้ชุมชนบนแพลตฟอร์มนี้เข้ามามีส่วนร่วมกับสิ่งที่แบรนด์ต้องการนำเสนอ นั่นจะทำให้แบรนด์ได้มีโอกาสปรับตัว ขยับออกจากการทำการตลาดแบบเดิมๆ สู่การทำการตลาดแบบใหม่ด้วยการกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ร่วมกัน แทนที่จะเป็นเพียงการรับชมโฆษณาแบบทั่วไปสำหรับโซลูชั่นของ TikTok For Business เพื่อให้แบรนด์สามารถเชื่อมโยงกับผู้ใช้ได้ในหลากหลายรูปแบบ ได้แก่Scale Creativity (การเติบโตและความคิดสร้างสรรค์)TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับ นักการตลาดในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ได้รับการพิจารณาเป็น Must Have Platform ที่แบรนด์ต่างๆ ต้องมี โดย TikTok มีความโดดเด่นจากรากฐานการเป็นแพลตฟอร์มที่นำเสนอความบันเทิง ความสนุกสนาน จึงถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือสำหรับแบรนด์หรือกระทั่งผู้ใช้ทั่วไปในการเล่าเรื่องหรือสร้างสรรค์คอนเทนต์ได้อย่างแปลกใหม่น่าสนใจSight, motion sound (การมองเห็น การเคลื่อนไหว และเสียงที่ได้ยิน)แบรนด์ต่างๆ สามารถสร้างคอนเทนต์ได้อย่างสะดวกง่ายดายทุกที่ทุกเวลาบนแพลตฟอร์ม TikTok รวมถึงการเข้าถึงและเลือกใช้เสียงเพลง, ซาวด์เอฟเฟ็กซ์, การใส่เสียงพากษ์, รีแอคชั่น และเทคนิคอื่นๆ มากมายที่จะช่วยให้เรื่องราวของแบรนด์ถูกนำเสนอได้อย่างน่าสนใจInclusive participatory community (การมีส่วนร่วมในคอมมิวนิตี้)TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่มุ่งเน้นการสร้าง “การมีส่วนร่วม” ซึ่งถือเป็นโอกาสสำหรับนักการตลาดที่จะสามารถสร้างคอนเทนต์ที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของกระแสสังคมหรือคอมมิวนิตี้ใน TikTok และในทางกลับกัน กลุ่มผู้ใช้บน TikTok ก็สามารถที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมกับแคมเปญการตลาดของแบรนด์ต่างๆ ได้เช่นเดียวกัน โดยพวกเขาก็จะสร้างสรรค์คอนเทนต์สนุกๆ ในเวอร์ชั่นของตัวเอง และนี่คือปรากฏการณ์ใหม่ที่แบรนด์จะได้เห็นผลตอบรับจากแคมเปญการตลาดของตนที่ถูกส่งไปยังกลุ่มเป้าหมายได้ทันทีThe place where culture is made (พื้นที่แห่งการสร้างสรรค์วัฒนธรรม)TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้และแบรนด์สามารถถูกค้นพบได้ง่ายจากสายตาชาวโลกโดยที่พวกเขาไม่จำเป็นจะต้องกดติดตาม ทำให้โอกาสในการเข้าถึงสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลกเป็นไปได้อย่างไร้ขีดจำกัด TikTok จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นและสร้างการมีส่วนร่วมของกระแสสังคมและวัฒนธรรมใหม่ในทุกๆ วันSeamless simple solutions (โชลูชั่นที่เรียบง่าย และไร้รอยต่อ)โซลูชั่นต่างๆ ของ TikTok มีทุกอย่างครอบคลุมสำหรับการทำการตลาดดิจิทัลและเปิดโอกาสให้แบรนด์สามารถบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างลึกซึ้งมีอรรถรส ผ่านการนำเสนอในรูปแบบวิดีโอแนวตั้ง พร้อมฟีเจอร์ต่างๆ ในการถ่ายและตัดต่อที่ทำได้ง่ายดาย โดยที่ผ่านมา TikTok ได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรชั้นนำในการสร้างสรรค์โซลูชั่นเพื่อการวัดผล (Measurement Solution) เพื่อให้มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ความต้องการของแบรนด์ต่างๆ ได้มากที่สุด ซึ่งในวันนี้เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่จะเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด คือ AR Branded Effect หรือเรียกว่า Brand Scan ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้ได้สัมผัสประสบการณ์เสมือนจริงในทุกภาพการเคลื่อนไหวผ่านเทคโนโลยี ARการใช้ประโยชน์จาก TikTok แพลตฟอร์มความบันเทิงแห่งนี้จะช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ โดยเฉพาะเมื่อมีการ “Sound-on” หรือการเปิดเสียง ซึ่งแบรนด์สามารถเลือกครีเอทคลิปวิดีโอในรูปแบบของเสียงเพลง, ซาวด์เอฟเฟกต์, เสียงพากษ์, รีแอคชั่น และอื่นๆ ได้ ซึ่งคอมมิวนิตี้แห่งการมีส่วนร่วมของชาว TikTok นักการตลาดจะได้ค้นพบกับครีเอเตอร์ที่โดดเด่น สามารถสร้างสรรค์วิดีโอที่เป็นเอกลักษณ์ได้ไม่เหมือนใคร ที่จะนำแคมเปญการตลาดมาสร้างสรรค์ในรูปแบบใหม่ และนั่นก็คือผลตอบรับจากแคมเปญการตลาดที่ถูกส่งกลับมายังแบรนด์โดยตรง ขณะเดียวกัน ยังมี Brand Scan ซึ่งเป็น AR Branded Effect เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ที่ผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์เสมือนจริงกับแบรนด์ นอกจากนี้ TikTok ยังสร้างโซลูชั่นการวัดผล เพื่อให้นักการตลาดสามารถติดตามผลตอบรับของแคมเปญการตลาดต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้นด้วยข่าวที่เกี่ยวข้อง-เปิดเคล็ดลับ!ทำไมคอนเทนต์บน TikTok ถึงปัง!!-4 ตัวช่วยตั้งค่า ป้องกันการโดนแฮก TikTok-ผลสำรวจ พบ การทำตลาดบน TikTok ช่วยปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้ดีขึ้น-TikTok เปิดโหมดให้ผู้ปกครองคุมเนื้อหาการใช้งานของบุตรหลานได้เกาะติดข่าวที่นี่website: www.TNNThailand.comfacebook : TNNThailandfacebook live : TNN Livetwitter : @TNNThailandLine : @TNNONLINEYoutube Official : TNNThailandInstagram : @tnn_onlineTIKTOK : @tnnonline

การบริหารการเงินในโลจิสติกส์ (Financial Management in Logistics)

(Image by mohamed Hassan from Pixabay)ยุคนี้การทำธุรกิจอะไรการบริหารการเงินล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจได้ไปต่อหรือไม่ รวมทั้งภาคอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ด้วย ซึ่งเวลาเราจะมองทางด้านการเงินนั้น เริ่มแรกเลยจะมองไปที่ ผลตอบแทนการลงทุน (Return on Investment : ROI) ซึ่งจะมีอยู่ 2 ฝั่ง ฝั่ง Return และฝั่ง Investment ซึ่งไอ้ตัว Return เราก็มองได้ง่ายๆว่า ลงทุนอะไรก็มองไปที่กำไรเป็นตัวตั้ง ส่วนเงินลงทุน คือ Capital เพราะฉะนั้น จับกำไรหารด้วย Capital ก็คือ ROI นั่นเองแล้วในการทำโลจิสติกส์จะทำอย่างไร ให้ผลตอบแทนจากการลงทุนดีขึ้น ซึ่งเราจะแยกพิจารณออกตาม ส่วนประกอบของ ROI จากที่กล่าวไว้ในข้างต้น คือพิจารณาจากฝั่งกำไร(Image by Steve Buissinne from Pixabay)เมื่อเราจะพิจารณากำไร จะชัดเจนมากว่ามาจากการขายลบด้วยต้นทุน เพราะฉะนั้น โจทย์ของเราในส่วนนี้ คือ ทำอย่างไรให้ยอดขายเพิ่มและต้นทุนการขายลดต่ำลง นิ่คือโจทย์ที่โลจิสติกส์ จะไปช่วย แล้วตัวยอดขายจะทำอย่างไรให้เพิ่มขึ้นละเราจะใช้โลจิสติกส์เข้าไปช่วยยอดขายได้โดย 4 ส่วน คือ(Image by Gerd Altmann from Pixabay)1. On Time in Full ตรงเวลาและเต็มจำนวน คือ ทำอย่างไรที่เราจะส่งสินค้าได้ On Time และส่งของส่งครบตามจำนวนที่ลูกค้าสั่ง2. ระดับการบริการ (Service Level) คือ เราต้องเพิ่มระดับการบริการอยู่ตลอดเวลาให้ลูกค้ากลับมาใช้เรา และเราสามารถที่จะเพิ่มระดับการบริการเพื่อที่จะทำให้ราคาขายของเรานั้นสูงขึ้นได้ ด้วยระดับการบริการ ไม่ได้ไปเน้นที่การลดต้นทุนอย่างเดียว3. การสร้างความสัมพันธ์ของลูกค้า (CRM) ทำอย่างไรถึงจะรู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร ทำอย่างไรให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุด ซึ่งจะส่งผลต่อยอดขาย4. การบริการหลังการขาย ซึ่งโลจิสติกส์ จะต้องมีส่วนเข้าไปช่วยมากๆ เนื่องจากโลจิสติกส์ ถือว่าเป็นงานบริการ ทำอย่างไรให้ลูกค้ามั่นใจ เมื่อใช้สินค้าจากเราซึ่งทั้ง 4 ตัวที่พูดมามันต้องทำให้เพิ่มสูงขึ้น ยอดขายถึงจะสูงขึ้นตาม(Image by Steve Buissinne from Pixabay)ในส่วนของต้นทุนการขาย เราจะต้องให้มันลดลง โดยโลจิสติกส์จะเข้าไปช่วยลดต้นทุน ได้ คือ1. ระดับปริมาณสินค้าคงคลัง (Inventory) ทำให้มันต่ำที่สุด โดยที่ยังสามารถตอบสนองได้ทั้งภายในและภายนอก ภายในก็คือ ตอบสนอง ขบวนการผลิตไม่ทำให้การผลิตหยุดชะงัก และการตอบสนองภายนอกคือลูกค้า ทำอย่างไรว่าเมื่อลูกค้าต้องการแล้วเราสามารถตอบสนองเขาได้ตลอดเวลา2. ขบวนการการจัดเก็บ จะถือเป็นต้นทุนอย่างหนึ่ง3. วิธีการขนส่ง จะขนส่งแบบเต็มเที่ยวหรือไม่เต็มเที่ยว4. ค่าเสื่อมสภาพ (Depreciation) และค่าเช่าสถานที่ที่เราจะใช้เป็นศูนย์กระจายสินค้าก็ถือว่าเป็นต้นทุนพิจารณาจากฝั่งเงินลงทุนส่วนฝั่งของเงินลงทุน จะต้องน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อทำให้ ROI ดีซึ่งโลจิสติกส์จะเกี่ยวพันกับเงินลงทุนอยู่ 3 มุมใหญ่ๆ คือ1. มุมของสินค้าคงคลัง ดูตั้งแต่วัตถุดิบที่เข้ามา2. มุมของเงินสดและบิลรอเรียกเก็บ3. มุมของสินทรัพย์ถาวร คลังสินค้าเราจะมาพิจารณาทีละมุมกันเลยมุมของสินค้าคงคลัง(Image by Pexels from Pixabay)เรามามองที่สินค้าคงคลังก่อน ซึ่งสินค้าคงคลังเราจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม1.เก็บไว้เพื่อผลิต พวกผลิตก็เป็นพวก Raw Material หรือสินค้าระหว่างการผลิต เราต้องดูว่าขั้นต่ำสุดของเราอยู่ตรงไหน ที่ยังสามารถสนองตอบความต้องการของฝ่ายผลิตได้ อย่าให้ของขาดหรือมากเกินไป2.เก็บไว้เพื่อขาย ในส่วนสินค้าคงคลังเพื่อการจำหน่าย มองได้หลายปัจจัย คือ ตลาดต้องการอะไร จึงต้องเก็บสินค้าที่พร้อมสำหรับตลาด และอีกปัจจัยหนึ่งคือ ต้องมีปริมาณเพียงพอ ไม่ใช่ต่ำเกินไป จนไม่สามารถสนองตอบความต้องการของลูกค้าได้ ถ็ถือเป็นการเสียโอกาส อีกปัจจัยหนึ่งก็คือ เรื่องสถานที่จัดเก็บ เก็บอย่างไร เราจะได้ไม่ต้องย้ายหลายรอบ และสินค้าคงคลังก็พร้อมจำหน่าย อยู่ในสภาพที่ดี อีกปัจจัยหนึ่งการคือเรื่อง การหมุนเวียนของสินค้า จะเป็นแบบ FIFO หรือ LIFO แล้วแต่ประเภทสินค้า และที่สำคัญมากสำหรับการบริหารสินค้าคงคลังก็คือ การสั่งซื้อยอดที่ประหยัดที่สุด (Economy Order Quantity : EOQ) เราต้องสามารถคำนวณได้ว่าเราสั่งซื้อตรงนี้ มีต้นทุนการจัดเก็บ (Holding Cost) การสั่งซื้อต่ำสุด เท่าไหร่ อย่างไรและจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ซึ่งฝ่ายจัดซื้อจะเป็นส่วนสำคัญมากในการหาตัวนี้ ซึ่งจะต้องสอดคล้องกับ Demand Rate ว่าเป็นอย่างไร เราก็ต้องสั่งซื้อให้ได้ตามนั้นมุมเงินสดและบิลรอเรียกเก็บ(Image by jacqueline macou from Pixabay)ในส่วนของเงินสด เราจะต้องมีวงจรของกระแสเงินสด (Cash Flow Statement) เราจะต้องหาให้เจอว่า สภาพคล่องเราเป็นอย่างไร เพราะเราสามารถใช้เงินไปในการบริหารงานได้แต่ระยะเวลาช่วงหนึ่งเท่านั้น ถ้าเงินเราไปจมอยู่ที่ลูกค้าที่ยังไม่จ่ายหนี้ หรือสินค้าคงเหลือ ก็อาจจะเป็นปัญหาได้ เพราะฉะนั้นคำว่า Cash Flow Statement กับ Income Statement ต้องแยกกันให้ชัด เพราะ Cash Flow คือ สภาพคล่องอีกอันหนึ่งคือระบบเอกสารการวางบิล เพราะเมื่อเราส่งเอกสารที่ไม่สมบูรณ์ไป อาจจะทำให้กลายป็น Overdue ได้ ต้องระบุเอกสารที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจนซึ่งฝ่ายขายและการเงินต้องประสานงานกันมุมสินทรัพย์ถาวร คลังสินค้าสินทรัพย์ถาวร ดูง่ายๆ เลยว่าเราจะซื้อหรือจะ Outsource ถ้าเราลงทุนมาก Investment Cost ของเราก็เยอะ แต่ถ้าหากเราไปใช้คลังสินค้าภายนอกมันก็จะทำให้ ROI เราดีขึ้น ซึ่งจะต้องดูที่นโยบายเพราะฉะนั้น จึงสรุปได้ว่า กำไรที่สูงขึ้น แล้ว ROI จะสูงขึ้นตามถ้าเงินลงทุนเราต่ำ ซึ่งเงินลงทุนเราจะดูสามตัวหลัก คือ สินค้าคงคลัง เงินสด สินทรัพย์ถาวรนั่นเองหวังว่า การบริหารการเงินในโลจิสติกส์ (Financial Management in Logistics) จะเป็นประโยชน์ต่อคนที่ทำธุรกิจนะครับ ซึ่งไม่จำเป็นต้องอยู่ในอุตสาหกรรโลจิสติกส์เท่านั้นนะครับ เพราะความรู้ที่ให้ไว้สามาถนำไปปรับใช้กับทุกธุรกิจเลย อ่านบทความทั้งหมดได้ที่  นิยมเล่าเป็นเรื่องติดต่อผู้เขียน : niyom_jung@hotmaul.com     

TikTok For Business แนะเทคนิค SMEs ปั้นยอดขายส่งท้ายปี

ช่วงปลายปีถือเป็นโอกาสทองของ SMEs ในการกระตุ้นยอดขายในช่วงโค้งสุดท้ายปลายปี ซึ่งแพลตฟอร์มออนไลน์ถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญในการสร้างยอดขายให้กับ SMEs ไทย โดย TikTok For Business โซลูชั่นการตลาดดิจิทัลบนแพลตฟอร์มชั้นนำระดับโลกอย่าง TikTok ที่มาพร้อมกับความโดดเด่นที่สามารถตอบโจทย์เป้าหมายการตลาดได้ครบวงจร หรือ Full-Funnel Marketing ตั้งแต่การสร้างการรับรู้ (Awareness) การมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค (Engagement) พร้อมต่อยอดไปถึงการพิจารณาเลือกซื้อ (Consideration) สู่การตัดสินใจซื้อ (Conversion) ส่งผลให้ TikTok For Business เป็นโซลูชันการตลาดดิจิทัลที่น่าจับตามากที่สุดในโลกของการตลาดดิจิทัลปัจจุบันที่มาพร้อม Self-Serve Solution หรือ โซลูชันแบบบริการตัวเอง ตัวช่วยสำคัญสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ที่จะช่วยให้การเริ่มทำการตลาดดิจิทัลบน TikTok สามารถทำได้อย่างสะดวกและง่ายดาย และตอบสนองความต้องการทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยล่าสุด TikTok For Business ได้เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้ใช้ TikTok ในประเทศไทย ในไตรมาสที่ 1 2 ของปี 2563 พบว่า ผู้ใช้ TikTok ในประเทศไทย มีพฤติกรรมในการซื้อสินค้าออนไลน์ที่น่าสนใจ ดังนี้ -88% ของผู้ใช้ TikTok ในไทยเคยสั่งซื้อสินค้าออนไลน์-75% ของผู้ใช้ TikTok รอโปรโมชั่นก่อนที่จะสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ จากข้อมูลนี้ จึงถือได้ว่าผู้ใช้ TikTok คือ หนึ่งในกลุ่มเป้าหมายที่น่าสนใจและมีศักยภาพสำหรับธุรกิจในการวางแผนการตลาดเพื่อพิชิตยอดขายในช่วงปลายปีที่เต็มไปด้วยเทศกาลแห่งการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่แบรนด์และธุรกิจจะได้ใช้ช่วงเวลาเหล่านี้ในการสร้างสรรค์โปรโมชั่น แคมเปญการตลาด เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในช่วงโค้งสุดท้ายด้วยการปักหมุดวันสำคัญที่ขาช้อปตั้งตาคอย ดังนี้ Black Friday วันที่ 27 พฤศจิกายน วันแห่งการเริ่มตันช้อปปิ้ง ที่ผู้คนต่างเลือกช้อปปิ้งกันอยากจุใจผ่านโลกออนไลน์ เนื่องจากเป็นวันที่มีส่วนลดจากร้านค้าต่างๆ มากมายแบบไม่อั้นCyber Monday วันที่ 30 พฤศจิกายน วันนี้ถือเป็นวันลดราคาสินค้าออนไลน์ที่ยิ่งใหญ่ โดยมีหลากหลายแบรนด์ใช้วันดังกล่าวในการจัดแคมเปญการตลาดเพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้เกิดการจับจ่ายสินค้าทางออนไลน์ วันช้อปปิ้ง 12.12 วันที่ 12 ธันวาคม วันแห่งการจัดเต็มโปรโมชันถือฤกษ์ดี 12.12 เพื่อดึงดูดลูกค้าด้วยสินค้าลดราคาแบบกระหน่ำ Boxing Day ช่วงวันที่ 26-31 ธันวาคม โค้งสุดท้ายกับการจัดโปรโมชัน ลดล้างสต๊อกแบบถล่มทลายประนึงแจกฟรี วันปีใหม่ วันที่ 1 มกราคม 2564 เป็นวันแห่งการเริ่มต้นพุทธศักราชใหม่ หลายธุรกิจมักจัดโปรโมชั่นต้อนรับวันแรกของปีด้วยโปรเด็ดๆ จัดหนักไม่อั้น จากวันสำคัญในปฏิทินช้อปปิ้งข้างต้นที่ธุรกิจทั้งหลายไม่ควรพลาดร่วมขบวนจัดเต็มโปรโมชันเพื่อดึงดูดความสนใจและสร้างยอดขายกันแบบ Non-Stop และเพื่อให้การวางแผนการตลาดในช่วงโค้งสุดท้ายปลายปีนี้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ในวันนี้ TikTok For Business จึงมีเทคนิคการวางแผนการตลาดบน TikTok มาฝากผู้ประกอบการ SMEs ดังนี้ ช่วงที่ 1 : ระยะเวลา 3-4 สัปดาห์ก่อนช่วงลดราคา แม้จะมีเวลาเตรียมการก่อนเริ่มกิจกรรมการตลาดเพียง 3-4 สัปดาห์ก่อนจะปลายปี แต่ถือว่าเป็นเวลาที่เพียงพอและเหลือเฟือสำหรับการเริ่มต้นทำการศึกษา TikTok For Business และการทำงานของ Self-Serve Solution หรือ โซลูชันแบบบริการตัวเอง ที่มาพร้อมความโดดเด่นทั้งการติดตั้งและการใช้งานที่ง่ายดาย เพียงเริ่มต้นดาวน์โหลด TikTok ผ่าน App Store หรือ Play Store ทางโทรศัพท์มือถือ หรือ เข้าที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ผ่านทางเว็บไซต์ www.tiktok.com หลังจากนั้นสร้างบัญชี TikTok Ads Manager ได้ที่ https://www.tiktok.com/business/th และยืนยันบัญชีของคุณหลังจากนั้นสามารถเริ่มลงโฆษณาได้ทันที ช่วงที่ 2 : ระยะเวลา 2-3 สัปดาห์ก่อนช่วงลดราคา สำหรับช่วงนี้เป็นช่วงสำคัญที่ต้องเริ่มสร้างการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์และโปรโมชั่น ด้วยการครีเอทคอนเทนต์เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์และสินค้าผ่านการใช้ Creative Tools หรือ เครื่องมือเพื่อการสร้างสรรค์วิดีโอ ที่อยู่ในหน้า TikTok Ad Manager ซึ่งเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้การตัดต่อวิดีโอเพื่อการโฆษณาสามารถทได้ง่ายด้วยตัวเอง แม้ว่าจะไม่เคยมีทักษะการตัดต่อ ซึ่งจะช่วยให้การออกแบบโฆษณาและการยิงโฆษณาทำได้อย่างง่ายดาย ด้วยฟีเจอร์มีอย่างครบครัน ได้แก่ การถ่ายวิดีโอ การตัดต่อ และใส่เอฟเฟกต์ต่างๆ รวมทั้งเพลงหรือเสียงประกอบที่ถูกลิขสิทธิ์ที่มีให้เลือกใช้มากกว่า 300 เพลง โดยเคล็ดลับในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่เกี่ยวกับแบรนด์และสินค้าให้น่าสนใจ คือ การนำเสนอเรื่องราวที่เข้าใจง่าย สั้น กระชับ เข้าใจง่าย และควรอยู่ในรูปแบบวิดีโอแนวตั้ง ช่วงที่ 3 : ระยะเวลา 1 สัปดาห์ก่อนช่วงก่อนลดราคา ผู้ประกอบการ SMEs สามารถเริ่มแคมเปญเพื่อเพิ่มยอดขายหรือ Conversion Campaign ในระยะเวลา 1 สัปดาห์ก่อนที่ช่วงโปรโมชันจะเริ่มต้นจริง โดยยังคงสร้างแคมเปญเพื่อสร้างการรับรู้ควบคู่ไปกับการขยายฐานไปสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ โดยสิ่งที่สำคัญของการทำแคมเปญ คือ การตั้งงบประมาณให้เพียงพอจนถึงวันสุดท้ายของการจัดโปรโมชั่นหรืออาจจะเพิ่มงบประมาณช่วงระยะเวลา 1-2 วัน ก่อนวันสุดท้ายของการจัดโปรโมชั่นหากต้องการเร่งยอดขายเพิ่มขึ้น ช่วงที่ 4 : ระยะเวลา 1-2 วันหลังช่วงลดราคา สำหรับหลังช่วงที่การจัดโปรโมชั่นได้สิ้นสุดลง ถือเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการ SMEs ควรศึกษาถึงประสิทธิภาพของแคมเปญในช่วงที่มีการจัดโปรโมชั่นโดยใช้เครื่องมือรายงานผลจาก TikTok Ads Manager ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ต้องการได้ อีกทั้งยังสามารถเรียนรู้ได้ว่าแคมเปญในช่วงที่ผ่านมามีสิ่งใดที่ควรเพิ่มเติมหรือควรปรับปรุง เพื่อนำไปต่อยอดแคมเปญที่จะเกิดขึ้นในอนาคตให้สร้างประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้น และด้วยจุดเด่นในการสร้างสรรค์บริการที่จะทำให้การบริหารจัดการโฆษณาบนแพลตฟอร์มทำได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยตัวของคุณเองผ่าน Self Serve Solution จะช่วยเพิ่มยอดขายส่งท้ายปีให้กับแบรนด์และธุรกิจทุกขนาดได้อย่างไม่มีขีดจำกัด โดยสามารถทำได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ในงบประมาณที่ยืดหยุ่น เริ่มตันเพียงวันละ 200 บาทเท่านั้น

เบรนเนอร์จี้ คว้ารางวัลจากผลงาน นวัตกรรม Empower Business with Digitization

ข่าววันนี้ คุณ ถิรธร เบญจรงคกุล ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานนวัตกรรม (Head of Innovation Unit) บริษัทเบรนเนอร์จี้ จำกัด ในกลุ่มเบญจจินดา กล่าวว่า บริษัทฯได้ รับรางวัล จากผลงาน Empower Business with Digitization ในการแข่งขัน MEiD Hackathon : Digital ID Solution for All บริการไทย ไร้รอยต่อ จากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA โดย เป็นการพัฒนา SmartFlow ระบบลงลายมือชื่อดิจิทัลบนเอกสารอิเล็กทรอนิค ที่พัฒนาขึ้น เพื่อส่งเสริมการทำธุรกรรมออนไลน์ได้อย่างมั่นใจ เนื่องจากมีระบบความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยจุดเด่นการยืนยันตน หรือ ดิจิทัล ไอเดนติตี้ (Digital Identity) พร้อมลายมือชื่ออีเล็คทรอนิด (Digital Signature) บนเอกสารต่างๆ เพื่อให้การพิสูจหลักฐานเอกสารได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และ ใช้พิสูจน์ในชั้นศาลได้จริง นอกจากนี้ยังนวัตกรรมมีความยืดหยุ่น ในเรื่องการรองรับรูปแบบการใช้งานที่หลากหลายในองค์กรรองรับการเซ็นเอกสารคนทั่วไปและองค์กร

เปิดเงินเดือนครูเทียบ“เอกชน-ตปท.” I BUSINESS WATCH (คลิป)

เปิดโครงสร้างเงินเดือนครูเทียบเอกชน มีรายได้มากน้อยแค่ไหน เหตุใดหนี้สินล้นพ้นตัว ทะลัก 1.4 ล้านล้านบาท ปัญหาระบบการศึกษาไทยอยู่ตรงไหน พบกับรายการ BUSINESS WATCH ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 21.15 - 22.00 น. และวันอาทิตย์ เวลา 21.00 - 22.00 น. ทาง TNN ช่อง 16 รับชมทางสถานีข่าว #TNN #TNNช่อง16 #TNNLIVE #BUSINESSWATCH เกาะติดข่าวที่นี่ website: www.TNNTHAILAND.comfacebook : TNNONLINEfacebook live : TNN Livetwitter : TNNONLINELine : @TNNONLINEYoutube Official : TNNONLINEInstagram : TNN_ONLINETIKTOK : @TNNONLINE

15 ข้อคิดจาก Business Proposal

 เรื่องย่อ Business Proposal นัดบอดวุ่น ลุ้นรักท่านประธานเรื่องราวของ “ชินอารี” (รับบทโดย คิมเจซอง) นักวิจัยและพัฒนาอาหารอาวุโส บริษัท Go Food บริษัทผลิตอาหารสำเร็จรูปชั้นนำของประเทศ ได้รับการขอร้องจากเพื่อนสนิท “จินยองซอ” (รับบทโดย ซอลอินอา) ลูกสาวบริษัทใหญ่ ให้ไปนัดบอดแทนตนเพราะพ่อต้องการจะจับคู่เธอให้แต่งงานกับหนุ่มไฮโซ ซึ่งชินอารีก็ช่วยทำให้แผนการนัดบอดล้มเหลวไปหลายครั้ง แต่พ่อของจินยองซอก็ยังไม่ล้มเลิกจัดการนัดบอดให้อีกครั้งกับ “คังแทมู” (รับบทโดย อันฮโยซอบ) ตอนแรกชินอารีปฏิเสธ เพราะไม่อยากทำแล้ว  แต่จินยองซอก็อ้อนวอนและจ้างวานเธอด้วยเงินจำนวนสูงทำให้เธอตกลง ตอนแรกชินอารีไม่รู้ว่าคนที่เธอจะต้องไปนัดบอดแทนนั้นเป็นประธานกรรมการบริหารบริษัท Go Food ที่เธอทำอยู่  แต่เมื่อพบกันเธอก็ไม่มีทางเลี่ยงต้องทำทุกวิถีทางให้คังแทมูไม่ชอบและยกเลิกการดูตัว แต่ด้วยความเป็นคนตรงไปตรงมาแบบที่ไม่มีใครเหมือนคังแทมูรู้สึกประทับใจชินอารี คู่นัดบอดปลอมๆ เรื่องราววุ่นๆ ระหว่างพนักงานบริษัทกับประธานหนุ่มสุดหล่อจึงเกิดขึ้นhttps://youtu.be/RHoKoa_oABs Business Proposal นัดบอดวุ่น ลุ้นรักท่านประธาน เป็นซีรีส์เกาหลีที่โด่งดังมาก ติดชาร์ต Global Top 10 รายการทีวีที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ ของสตรีมมิ่งรายใหญ่อย่าง Netflix ถึง 3 สัปดาห์ติดต่อกัน เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากเว็บตูนชื่อ The Office Blind Date พอมาทำเป็นซีรีส์คนเขียนบทก็ไม่ทำให้คนดูผิดหวัง ยังสามารถถ่ายทอดความโรแมนติกคอมเมดี้ที่ทำเอาคนดูหัวเราะเสียงดังไม่หยุดออกมาได้อย่างดี มีการทำ Computer Graphic  ที่เหมือนอ่านการ์ตูนทำให้ภาพน่าสนใจ นอกจากนี้ความน่ารักของนักแสดงแต่ละคนก็มัดใจคนดูได้อยู่หมัด  ทั้งคู่พระนางและคู่รอง ตัวประกอบอื่นๆ ก็คัดเลือกมาได้เหมาะสมกับบท ความรู้สึกของผู้เขียนเสียดายที่ซีรีส์เรื่องนี้ทำออกมาแค่ 12 ตอน ซึ่งน่าจะมีสัก 16 ตอน เพื่อที่เราจะได้เสพกับความสุข ความฮา และความน่ารักของเรื่องนี้ได้นานขึ้นอีกนิด  15 ข้อคิดที่ได้จากการดูซีรีส์ Business Proposal นัดบอดวุ่น ลุ้นรักท่านประธานนอกจากความบันเทิงแล้วถ้าเราวิเคราะห์ดีๆ มีหลายจุดที่เรื่องนี้ให้ข้อคิดกับเราได้ (อาจมีสปอยในบ้างช่วงนะคะ)1. พ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่มักเป็นห่วงว่าลูกหลานจะไม่ได้แต่งงาน หรือแต่งกับคนที่ตัวเองคิดว่าไม่เหมาะสม เป็นพล็อตหลักของเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ที่เกิดเหตุการณ์วุ่นๆ ทั้งหลายในเรื่องมาจากการที่ทั้งพ่อของจินยองซอ และปู่ของคังแทมู อยากให้ทั้งคู่แต่งงาน เลยพยายามแนะนำคนมาให้ดูตัว ซึ่งแต่ละคนที่คัดมาจะต้องมีทั้งฐานะ การศึกษา ที่ดีเหมาะกับลูกหลานของตัวเอง2. ความรักมักมาไม่รู้ตัว/ถ้าไม่ใช่ต้องยอมรับแล้วปล่อยไป ในตอนแรกนางเอกไม่ได้รักพระเอก แต่แอบรักเพื่อนของตัวเองมาถึง 7 ปี แต่พอเจอพระเอกที่พยายามจีบและทำอะไรหลายอย่างให้ประทับใจก็เริ่มที่จะมีใจให้ ประกอบกับเสียใจที่เพื่อนที่แอบรักมานานมีแฟนเลยยอมตัดใจ ส่วนคู่ของจินยองซอ และชาซองฮัน เลขาของท่านประธานก็เจอกันโดยบังเอิญและตกหลุมรักกันเหมือนรักแรกพบ  3. เนื้อคู่กันแล้วไม่แคล้วกัน/แต่งงานก็ควรแต่งกับคนที่รัก “ความรักคือการคิดถึงอีกฝ่ายแม้จะอยู่ด้วยกันตรงหน้า แค่นึกถึงก็ชวนให้หัวใจพองโต” , “ฉันเกลียดการยึดติดอารมณ์ที่จับต้องไม่ได้”  เป็นบทสนทนาช่วงหนึ่งระหว่างเลขาและท่านประธานสุดหล่อ ซึ่งพระเอกของเราตอนแรกไม่เชื่อในความรัก แต่สุดท้ายก็โดนนางเอกตกจนได้ เห็นความน่ารัก ตรงไปตรงมา ตลกไม่เหมือนใคร เลยทับใจหลายๆ  และเมื่อได้รักก็มั่นคงไม่เปลี่ยนแปลงทำหลายวิธีให้นางเอกรักตัวเอง  น่ารักสุดๆ   4. ต้องเรียนรู้วิธีบริหารการเงิน/รู้จักการออมเงิน จากในเรื่องนางเอกต้องยอมรับข้อเสนอของจินยองซอที่จ้างวานด้วยเงินจำนวนที่สูงให้ไปนัดบอดแทนตนเพราะว่าตัวเองและครอบครัวมีหนี้สินเยอะต้องนำเงินไปใช้หนี้ และตอนที่จินยองซอ ซึ่งเป็นสาวไฮโซ ออกจากบ้านมาและพ่อเธอยึดบัตรเครดิตไป เธอแทบจะถังแตกเพราะเคยใช้เงินซื้อของฟุ่มเฟือยเป็นประจำ พอทำงานมีเงินเดือนก็ไม่ค่อยได้ออมเก็บไว้5. ควรจะถ้อยทีถ้อยอาศัยกับเพื่อนบ้าน ครอบครัวนางเอกทะเลาะกับเพื่อนบ้านเพราะการวางขยะไม่เป็นที่เป็นทางจนถึงขั้นเผลอผลักเพื่อนบ้านจนบาดเจ็บ พ่อนางเอกพยายามห้ามทุกคนและกล่าวว่า “เราคนบ้านใกล้เรือนเคียง อย่ากระทบกระทั่งกันเลย คุยกันดีๆ”  6. อย่าโกหกเพราะจะต้องโกหกต่อไปเรื่อยๆ จุดเริ่มต้นจากการที่ชินอารีโกหกและยอมปลอมตัวไปนัดบอดแทนจินยองซอก่อให้เกิดปัญหาตามมาเรื่อยๆ ต้องยอมทำสัญญาเป็นแฟนกับท่านประธานหนุ่มเพื่อโกหกปู่ว่ามีแฟนแล้ว โกหกครอบครัว เพื่อนร่วมงาน พออยากจะเลิกโกหกก็ไม่สามารถทำได้ทันทีจำต้องโกหกต่อไปอีก  7. อย่าตัดสินคนอื่นด้วยมุมมองของตัวเอง จินซอยองไม่ชอบคังแทมู เพราะคิดว่าเป็นคนแล้งน้ำใจ ชอบใช้เลขาของตัวเองโดยไม่มีเหตุผล ซึ่งจริงๆ แล้วไม่เป็นแบบนั้นเลขาและคังแทมูโตมาด้วยกันและรักกันเหมือนพี่น้อง หรืออย่างตอนที่พอพนักงานบริษัท Go Food รู้ว่า ชินอารี เป็นแฟนกับท่านประธานและยังคบซ้อนกับเชฟซึ่งเป็นเพื่อนสนิทตัวเองอีกก็พากันนินทาไม่ชอบ ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ได้เป็นแบบนั้นแต่เพราะเพื่อนที่ไม่หวังดีปล่อยข่าวเสียหาย 8. ระวังอย่ารับของจากคนที่ไม่รู้จักกันดี  จินยองซอได้รับของขวัญจากผู้ชายที่เข้ามาตีสนิท ซึ่งแท้ที่จริงแล้วของขวัญชิ้นนั้นซ่อนกล้องแอบถ่ายเอาไว้เพื่อบันทึกพฤติกรรม9. อย่าตัดสินใครจากฐานะ/คบใครที่ฐานะ  ชินอารีกับจินยองซอ เป็นเพื่อนสนิทกันโดยที่จินยองซอไม่สนใจว่าชินอารีจะจนกว่าตนเอง คังแทมูและชาซองฮัน ซึ่งเป็นเลขาส่วนตัวก็คบกันเหมือนคนในครอบครัวโดยไม่คิดว่าชาซองฮันคือเด็กกำพร้าที่ครอบครัวตนเก็บมาเลี้ยง10. จงชัดเจนในความรัก/อย่ากลัวที่จะรัก/เมื่อรักแล้วต้องพุ่งชน นางเอกไม่กล้าที่จะรักพระเอก ปฏิเสธอยู่หลายครั้งเพราะเห็นว่าตัวเองไม่เหมาะสมเพราะเป็นแค่พนักงานบริษัท และฐานะทางบ้านก็ธรรมดา เลยทำให้พลาดโอกาสที่จะเป็นแฟนกัน แต่พอตัดสินใจว่าจะกล้ายอมรับแล้วก็พยายามทำให้ปู่ของพระเอกยอมรับเธอ ส่วนเพื่อนสนิทนางเอกพอรู้ตัวว่ารักเลขาพระเอกก็มุ่งมั่นพยายามจีบมาเป็นแฟนให้ได้แม้ว่าผู้ชายจะมีท่าทีปฏิเสธหลายครั้งเพราะเหตุผลส่วนตัว แต่สุดท้ายก็ได้เป็นแฟนกัน    11. กล้าเผชิญกับปมในใจ/ปลดปล่อยอดีตเพื่อก้าวเดินต่อ พระเอกมีปมในใจที่เห็นพ่อแม่ของตนประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตในวันที่ฝนตก เลยทำให้เกลียดวันที่ฝนตกและไม่สามารถขับรถในวันนั้นได้ จนในที่สุดก็ยอมรับปมในใจข้อนี้ยอมปลดปล่อยด้วยการเล่าให้นางเอกฟัง12. เพื่อนสนิท คือ คนที่ยอมทำเรื่องเพี้ยนๆ กับเรา/รับฟังปัญหาและยอมช่วยเหลือเมื่อเราเกิดปัญหา ชินอารีและจินยองซอเป็นเพื่อนรักที่ทำอะไรเพี้ยนๆ ด้วยกัน และเมื่อใครคนหนึ่งมีปัญหาอีกคนก็พร้อมที่จะช่วย13. เมาอย่างมีสติ ไม่เช่นนั้นเราจะทำอะไรรั่วๆ และจำไม่ได้ ในเรื่องจะมีหลายฉากเลยที่ชินอารีเมามากทำอะไรแปลกๆ พอตื่นขึ้นมาก็จำไม่ได้  อย่างจูบกับคิมแทมู ส่วนจินยอซอก็ไม่แพ้กันเมาจนนอนกับชาซองฮัน แต่ก็จำอะไรไม่ได้เลย   14. ข่าวลือมีอยู่เสมอ ใช้วิจารญาณในการตัดสิน เพื่อนสมัยมหาลัยของชินอารีสร้างข่าวและปล่อยข่าวว่าร้ายชินอารีจนกลายเป็นกระแสดังในโซเซียล ทำให้คนอื่นๆ มองชินอารีไม่ดี จนกลายเป็นประเด็นดราม่าถึงขั้นจะปลดท่านประธานออกจากตำแหน่ง แต่เพื่อนกลุ่มนักพัฒนาอาหารของชินอารีไม่เชื่อแถมยังออกโรงปกป้องอีกต่างหาก15. สุขภาพสำคัญที่สุด รักษาสุขภาพให้แข็งแรง ปู่ของพระเอกต้องผ่าตัดโรคหัวใจและต้องไปรักษาตัวที่เมืองนอกทำให้พระนางของเราต้องอยู่กันคนละประเทศถึง 1 ปี ส่วนพ่อของนางเอกก็ทำงานหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล เห็นได้ว่าวันหนึ่งเราอาจเจ็บป่วยได้ ดังนั้น ควรจะรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ  นี่เป็น 15 ข้อคิดที่ผู้เขียน ได้จากการดูเรื่อง Business Proposal  คนอื่นๆ อาจเห็นในมุมของตัวเองก็ได้นะคะ ผู้เขียน Miss CDOเครดิต ภาพปก จาก sbs official website  ภาพ 1  ภาพ 2  ภาพ 3  ภาพ 4  ภาพ 5          ภาพเนื้อหา  sbs officialwebsite ภาพ 1 ภาพ 2 ภาพ 4 ภาพ 5 ภาพ 7 ภาพ 8  ภาพ  9 ภาพ 10 ภาพ 11 ภาพ 12 ภาพ 13                            Netflix Top 10 ภาพ 3  Netflixth  ภาพ 6  Netflixyoutube วิดีโอ 1 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงสุดหลากหลาย บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

เปิดโปรเจ็กต์ "TSM MANAGEMENT" รวมหนุ่มสาวทรานส์วูแมน สร้างโอกาสใหม่ในวงการแฟชั่นและบันเทิงไทย

ว้าวเกินต้าน เปิดโปรเจ็กต์ TSM MANAGEMENT ภายใต้ ช่อง 7HD ต่อยอดความสำเร็จจากการประกวดเวทีประกวดนางแบบและนายแบบอันดับหนึ่ง THAI SUPERMODEL 2024 รวมหนุ่มสาวมากความสามารถเข้าสังกัด พร้อมส่งเสริมการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์เดินหน้าสร้างความท้าทายไม่หยุดนิ่ง ล่าสุดจากความสำเร็จของการประกวด THAI SUPERMODEL 2024 ในปีนี้ เปิดโปรเจ็กต์ "TSM MANAGEMENT" รวมหนุ่มสาวทรานส์วูแมน ที่สร้างกระแสการตอบรับการกลับมาของเวทีอย่างมากมาย รวมถึงผู้เข้าประกวดนอกจากความหล่อสวยแล้ว ยังมีความสามารถหลากหลาย น่าสนใจ ต่อยอดการสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ TSM MANAGEMENT ขึ้นภายใต้ ช่อง 7HD โดยเปิดโอกาสให้ศิลปินในสังกัดสามารถแสดงความสามารถได้อย่างเต็มที่ พัฒนาศักยภาพ และสร้างโอกาสเติบโตในอุตสาหกรรมแฟชั่น และบันเทิงสังกัด TSM MANAGEMENT จะทำหน้าที่ดูแล พัฒนา ผลักดันศิลปินให้มีความสามารถ มีคุณภาพหลากหลายด้านเพื่อรองรับงานในวงการแบบไม่จำกัด ทั้งวงการแฟชั่น และบันเทิงมากมาย ประเดิมศิลปินภายใต้สังกัด TSM MANAGEMENT ประกอบด้วยหนุ่มหล่อ สาวเท่ และทรานส์คนเก่ง ความสามารถโดดเด่น นำโดย นีรชา ดอร์ลิ่ง (เอล่า) THAI SUPERMODEL 2024 เดโชชัย ธิติอภิธาน (ดีแลนด์) THAI SUPERMODEL MALE 2024, ก้องภพ บรรณทอง (ซัน), กันตเมศฐ์ รวินันท์โกสิน (กาย), สมชาย เจริญสุข (ชาย), มาร์ติน เจ ประทุมสุวรรณ, นิธิ อยู่คง (วายุ) และทรานส์คนแรก ศุภกฤต วณิชเจริญพงษ์ (ดิว)โปรเจ็กต์นี้จะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างและสนับสนุนคนรุ่นใหม่ หวังว่าผลงานของทุกคนจะได้รับการยอมรับและสร้างแรงบันดาลใจให้กับรุ่นต่อ ๆ ไป ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของ TSM MANAGEMENT ได้ทาง INSTAGRAM : tsm.mgt และ FACEBOOK: THAI SUPERMODEL และช่องทางอื่น ๆ ของ Ch7HD

ชง Business Bubble หนุนลงทุนอีอีซีต่อเนื่อง

วันนี้ (22 มิ.ย.63) นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) เปิดเผยผลประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิศษภาคตะวันออก (กพอ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) จะเสนอแนวทางผ่อนปรนการเดินทางระหว่างประเทศแบบ Business Bubble เป็นลำดับแรกในพื้นที่เฉพาะเจาะจง อาทิ พื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ให้ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ต่อไป เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยและต่างประเทศมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อรองรับบุคลากรภาคธุรกิจในพื้นที่ อีอีซี ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) อยู่ระหว่างหารือร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงสาธารณสุข ถึงแนวทางผ่อนปรนการเดินทางเข้าประเทศไทย ได้แก่ การสร้างภาคีเครือข่ายองค์กร บุคลากรทางการแพทย์ในประเทศต้นทาง กับ สถานเอกอัครราชทูตไทย หรือ สถานกงสุลใหญ่ จัดให้มีการตรวจและออกใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่า ผู้เดินทางมีสุขภาพเหมาะสมกับการเดินทางทางอากาศ (Fit to Fly) การขึ้นทะเบียนสถานที่และการบริการ Alternative State Quarantine เพิ่มเติมในพื้นที่ อีอีซี และทบทวนข้อกำหนด หรือ มาตรการให้บุคลากรต่างชาติสามารถทำภารกิจในพื้นที่ได้คล่องตัวยิ่งขึ้น ทั้งนี้ กลุ่มบุคลากรภาคธุรกิจในพื้นที่ อีอีซี จากประเทศญี่ปุ่น อาทิ หอการค้าประเทศญี่ปุ่น (Japanese Chamber of Commerce : JCC) และองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น ETRO) ภาคธุรกิจจากสาธารณรัฐเกาหลี และประเทศอื่นที่เกี่ยวข้องกับภาคอุตสหกรรมได้ยื่นหนังสือถึงภาครัฐขอให้ผ่อนคลายการเดินทางเข้าประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ รวมถึงการส่งช่างเทคนิคเข้ามาตรวจสอบซ่อมบำรุงเครื่องจักรในอุตสาหกรรม และเพื่อสนับสนุนการลงทุนในพื้นที่ต่อเนื่อง นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบการจัดทำแผนพัฒนาการเกษตรในพื้นที่ อีอีซี ที่มีเป้าหมายยกระดับรายได้เกษตรกรให้เทียบเท่ากลุ่มอุตสาหกรรมและบริการ โดยแนวทางการพัฒนานั้น ได้แก่ ใช้ความต้องการนำการผลิต ,ยกระดับการตลาด-การแปรรูป-การเกษตร ด้วยเทคโนโลยีในทุกขั้นตอน ,ให้ความสำคัญกับเกษตร 5 คลัสเตอร์ที่มีพื้นฐาน รวมทั้งโครงการจัดหาพลังงานสะอาด (พลังงานแสงอาทิตย์) ในพื้นที่อีอีซี โดยให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เสนอโครงการพลังงานที่ใช้ในเมืองใหม่ รูปแบบพลังงานอัจฉริยะ (Smart Power Supply: SPS) ในลักษณะการผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เอง หรือ Independent Power Supply (IPS) ซึ่งมอบหมายให้ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผลิตไฟฟ้า เพื่อส่งให้ กฟภ.รับซื้อ และส่งจำหน่ายสำหรับใช้ในเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ สำหรับภาพรวมการขอรับการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่อีอีซีในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-พ.ค.) มีมูลค่า 74,151 ล้านบาท คิดเป็น 67% ของมูลค่าขอรับการส่งเสริมการลงทุนทั้งประเทศ ซึ่งมูลค่าลดลง 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีมูลค่า 82,467 ล้านบาท ขณะที่ มูลค่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในพื้นที่อีอีซี คิดเป็น 53% ของ FDI ทั้งหมด โดยยังคงเป็นการลงทุนโดยตรงจากจีนมากสุด รองลงมาคือ ญี่ปุ่น สำหรับอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ได้รับความสนใจมากสุด เกาะติดข่าวที่นี่website:www.TNNThailand.comfacebook :TNNThailandfacebook live :TNN Livetwitter :@TNNThailandLine :@TNNONLINEYoutube Official :TNNThailandInstagram :@tnn_onlineTIKTOK :@tnnonline

SNP ปลื้ม คว้างรางวัล “Bai Po Business Awards" สุดยอดเอสเอ็มอี

ข่าววันนี้ ดร.ธีรญา กฤษฎาพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ในกลุ่ม Specialty Natural Innovation (SNI) เปิดเผยว่า ได้รับรางวัล Bai Po Business Awards by Sasin ครั้งที่ 17 ซึ่งจัดโดยธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมกับ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในมิติ องค์กรที่มีการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน, องค์กรที่มีการสร้างสรรค์นวัตกรรม, การบริหารจัดการด้านการเงินและ การสร้างธุรกิจด้วยพลังแห่งการเป็นผู้ประกอบการ ซึ่งจัดขึ้นด้วยวัตถุประสงค์เพื่อการส่งเสริมเอสเอ็มอีไทยให้แข็งแกร่ง สามารถพัฒนาคุณภาพและสร้างความแตกต่างที่โดดเด่น โดยในครั้งนี้บริษัท เป็น 1 ใน 7 บริษัท ที่ได้รับการคัดเลือก ซึ่งบริษัทได้โชว์ศักยภาพการดำเนินกิจการได้อย่างดีเป็นที่น่าจับตา แม้ในสถานการณ์ไม่ปกติ ที่มีปัจจัยทั้งด้านโรคระบาด การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และปัจจัยอื่นๆภายในประเทศ ทำให้เป็นที่พึงพอใจ ในมิติ องค์กรที่มีการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน องค์กรที่มีการสร้างสรรค์นวัตกรรม การบริหารจัดการด้านการเงิน และการสร้างธุรกิจด้วยพลังแห่งการเป็นผู้ประกอบการ และด้วยวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นตั้งใจในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทในเครือ SNI ทำให้เชื่อมั่นว่า ทั้งในปีนี้ และปีต่อๆไปบริษัทจะสามามารถดำเนินกิจการให้เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน เป็นผลมาจากรากฐานการดำเนินงานที่มั่นคง อีกทั้งยังมีหน่วยงาน องค์กรที่มีคุณภาพเข้าร่วมสนับสนัน เป็นที่ปรึกษา และส่งเสริมการดำเนินงานบริษัทในระยะยาว สเปเชียลตี้ เนเชอรัล โปรดักส์ (SNP) เป็นผู้ผลิตสารตั้งต้นสำหรับอุตสาหกรรมเวชสำอาง, อาหารเพื่อสุขภาพ, เครื่องดื่ม, เครื่องสำอาง และส่วนผสมในผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพผิวพรรณ โดยเน้นการนำเอาวัตถุดิบ สารตั้งต้นการผลิตที่เป็นสมุนไพรไทยเป็นหลัก ด้วยเราเชื่อมั่นในความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ในประเทศ อีกทั้งยังได้ต่อยอดพัฒนาในเรื่องของการปลูกที่จะส่งผลต่อคุณภาพของผลผลิตทางการเกษตร ทำให้สารสกัด ที่ได้จะถูกนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ตาม หลักเกณฑ์วิธีการผลิตที่ดี Good Manufacturing Practice (GMP) และด้วยความสามารถในการวิเคราะห์คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มี คุณภาพสูง และสามารถควบคุมคุณภาพให้มีความสม่ำเสมอได้ในทุกรุ่นของการผลิต การวิเคราะห์ด้วยเครื่องมือ High Performance Liquid Chromatography (HPLC) และ UV Spectrophotometer สามารถควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ในทุกครั้งของการผลิตในรายละเอียดคือ ส่วนประกอบทางเคมีต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสมุนไพรแต่ละชนิด สารประกอบหลักที่ เลือกใช้ในการบ่งชี้ถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ความสม่ำเสมอของคุณภาพผลิตภัณฑ์ในทุกครั้งของการผลิตดร.ธีรญากล่าว

บินไทยปั้น “อร่อยล้นฟ้า-ปาท่องโก๋” โตเท่าตัว I BUSINESS WATCH (คลิป)

รายใหญ่ดิ้นสู้วิกฤตหันเปิดธุรกิจใหม่ หารายได้ช่วงเศรษฐกิจซบ ธุรกิจบริษัทไหนน่าสนใจ กิจการอะไรไปรุ่งบ้าง และสัมภาษณ์คุณ วรางคณา ลือโรจน์วงศ์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายครัวการบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) พบกับรายการ BUSINESS WATCH ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 21.15 - 22.00 น. และวันอาทิตย์ เวลา 21.00 - 22.00 น. ทาง TNN ช่อง 16 รับชมทางสถานีข่าว #TNN #TNNช่อง16 #TNNLIVE #BUSINESSWATCH เกาะติดข่าวที่นี่website: www.TNNTHAILAND.comfacebook : TNNONLINEfacebook live : TNN Livetwitter : TNNONLINELine : @TNNONLINEYoutube Official : TNNONLINEInstagram : TNN_ONLINETIKTOK : @TNNONLINE

นายกฯ เผยผลสำเร็จหลังเยือนอิตาลี เชิญเยี่ยมภูเก็ตจัด Business Forum

วันนี้ (22 พ.ค. 67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังจบภารกิจการเยือนสาธารณรัฐอิตาลีอย่างเป็นทางการว่า การเยือนสาธารณรัฐอิตาลีในครั้งนี้ ถือว่าสำเร็จเหนือความคาดหวัง พอใจภาพรวมตลอดเวลาหลายวันที่ผ่านมามาก โดยมีการหารือทวิภาคีกับนางสาวจอร์จา เมโลนี นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐอิตาลี ในประเด็นต่างๆ- ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยได้นำเรื่องการยกเว้นการตรวจลงตราเข้าเขตเชงเก้น ที่ไทยได้หารือในเรื่องนี้กับประเทศสมาชิกยุโรปอยู่แล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรีอิตาลีพร้อมให้การสนับสนุน รวมถึงประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนายกรัฐมนตรีเยอรมนี รวมเป็น 3 ประเทศใหญ่ ซึ่งให้คำมั่นสัญญาว่าจะพยายามทำอย่างเต็มที่- ความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย - สหภาพยุโรป ซึ่งนายกรัฐมนตรีอิตาลีก็เห็นความสำคัญ และรับปากที่จะช่วยดูแล เพราะถ้าภาคเอกชนอิตาลีต้องการไปลงทุนเพื่อขยายฐานการผลิตที่ไทย เพื่อทำให้สินค้าเข้าถึงตลาดทั่วโลก เรื่อง FTA ก็เป็นเรื่องสำคัญ- ความมั่นคง ทั้งเรื่องการซื้ออาวุธ และการพัฒนากองทัพร่วมกัน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ นายกรัฐมนตรีได้ให้ผู้ช่วยทูตทหารประสานงานกับฝ่ายความมั่นคงของอิตาลี ซึ่งไม่เฉพาะเพียงเรื่องการซื้ออาวุธ แต่รวมถึงการพัฒนาระบบในการฝึกซ้อม และเทคโนโลยีต่าง ๆ- อุตสาหกรรมการออกแบบและแฟชั่น ซึ่งอิตาลีมีศักยภาพมาก โดยนายกรัฐมนตรีต้องการให้มีการแลกเปลี่ยนการจัดนิทรรศการ นักเรียน และผู้เชี่ยวชาญ โดยนายกรัฐมนตรีได้ยกตัวอย่างภาคเอกชนที่ได้พบหารือ เช่น Bvlgari- พลังงาน อิตาลีสนใจเรื่องพลังงานสะอาด และการค้นหาแหล่งก๊าซธรรมชาติ- แรงงาน โดยทางอิตาลีมีความต้องการแรงงานเฉพาะฤดูที่เกี่ยวกับการเกษตร อยากสนับสนุนให้แรงงานเกษตรไทยเข้ามาทำงานที่ประเทศอิตาลี ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการแรงงานไทย ที่เป็นแรงงานที่มีคุณภาพทางด้านการเกษตร และรายได้สูงมาก ถือเป็นอีกทางเลือกให้กับเกษตรกรชาวไทยนายกฯ เปิดเผยอีกว่ามีการพูดคุยเรื่องโครงการ Landbridge การขยายสนามบินซึ่งทางอิตาลีมีเทคโนโลยีที่อาจเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาได้ นายกรัฐมนตรีอิตาลีได้เสนอให้ทั้ง 2 ประเทศมีการวางเป้าหมายที่ชัดเจน และมีการเซ็น MOU ระหว่างภาคเอกชนกับภาคเอกชน หรือเอกชนกับรัฐบาลนอกจากนี้ ในวันที่ 1 กรกฎาคม จะมีการเปิดเที่ยวบินระหว่างกรุงเทพฯ - มิลาน และช่วงฤดูหนาวจะมีการเปิดเที่ยวบินระหว่างกรุงเทพฯ - โรม ถือว่าเป็นเรื่องการมีความเชื่อมโยงที่ดี เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีได้ ซึ่งคาดว่าสายการบินแห่งชาติของอิตาลีก็น่าจะสนใจในเรื่องนี้ในโอกาสนี้ ได้เชิญนายกรัฐมนตรีอิตาลีเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ และเชิญชวนให้ไปเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ซึ่งทำให้อาจมีการเดินทางเยือนไทยในช่วงต้นปี 2568 โดยจะมีการนำนักธุรกิจร่วมเดินทางเพื่อจัดเป็น Business Forumนายกฯ เชื่อว่า ความเป็นกลางทางด้านการเมืองของไทยทำให้ไทยมีเสน่ห์ในสายตานานาชาติ เพราะการจะตัดสินใจย้ายฐานการผลิตเข้ามา ต้องมั่นใจว่าไทยจะสามารถส่งสินค้าได้โดยที่ไม่เป็นคู่ขัดแย้งกับหลาย ๆ ประเทศ การรองรับด้านพลังงานสะอาดก็เป็นเรื่องสำคัญ และชีวิตความเป็นอยู่ในประเทศไทย ทำให้ไทยมีเสน่ห์ดึงดูดให้มีนักลงทุนเดินทางมาส่วนความกังวลในเรื่องประเด็นการเมืองภายในประเทศ นายกฯ ย้ำว่า ฝ่ายอิตาลีมีความมั่นใจในประเทศไทยสูงมาก เป็นรัฐบาลที่มาตามระบอบประชาธิปไตยที่ถูกต้อง มีความชอบธรรม การเดินทางครั้งนี้เป็นทริปที่ 15 แล้ว ได้ไปปรากฏตัวในเวทีโลกหลายเวที และเน้นย้ำเสมอว่า ประเทศไทยเปิดแล้วสำหรับทำธุรกิจ และไม่มีโอกาสและช่วงเวลาไหนดีที่สุดที่จะมาลงทุนในไทยเท่าช่วงเวลาแล้วp.p1 {margin: 0.0px 0.0px 0.0px 0.0px; font: 13.0px Thonburi} span.s1 {font: 13.0px 'Helvetica Neue'}p.p1 {margin: 0.0px 0.0px 0.0px 0.0px; font: 13.0px Thonburi} span.s1 {font: 13.0px 'Helvetica Neue'}ข้อมูลจาก:ทำเนียบรัฐบาลภาพจาก: ทำเนียบรัฐบาล

LINE Consumer Business จัดทัพใหม่ รับวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ ปูพรมขยายโอกาสธุรกิจ

นายนรสิทธิ์สิทธิเวชวิจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ LINE ประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปี 2564 ที่ผ่านมา ภายใต้สถานการณ์ที่ท้าทาย ธุรกิจพาณิชย์ภายใต้ LINE Consumer Business ยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยมีครีเอเตอร์ไทยผู้สร้างสรรค์สติกเกอร์ร่วมงานกับ LINE (LINE Creators) แล้วกว่า 1 ล้านราย และสติกเกอร์วางจำหน่ายในตลาดของประเทศไทยกว่า 5.3 ล้านชุด มีร้านค้าที่ได้รับอนุญาตเป็นตัวแทนจาก LINE STICKERS หรือ LINE Verified Reseller มากกว่า 18,000 ร้านค้า ในขณะเดียวกัน แผนการผลักดันครีเอเตอร์ไทยสู่ IP Business มีความคืบหน้าเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก โดยปัจจุบันมีครีเอเตอร์ไทยที่พัฒนาเข้าสู่ IP Business แล้วกว่า 28 ราย โดยมีความร่วมมือทางธุรกิจช่วยสร้างมูลค่าให้กับแบรนด์ อาทิ AIS, UNIQLO, NIVEA, The 1, LION และ LINE SHOPPING เป็นต้น โดยหนึ่งผลงานที่ริเริ่มจากแผนการพัฒนาและแสดงศักยภาพของครีเอเตอร์ไทยที่ได้จัดทำแล้วในปีที่ผ่านมาคือ รายการ THE NEXT CREATORS ล่า ท้า ฝัน เรียลลิตี้โชว์ที่ไม่เพียงเปิดโอกาสให้ครีเอเตอร์ดาวรุ่งหน้าใหม่ ได้แสดงฝีมือและร่วมสร้างสรรค์ผลงานกับตอบโจทย์ธุรกิจและแบรนด์ระดับโลก แต่ยังเป็นรายการที่เป็นสื่อในการให้ความรู้ผ่านการนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับกระบวนการสร้างสรรค์ผลงานในอาชีพครีเอเตอร์ ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ชมและได้ผลการตอบรับเชิงบวกเป็นจำนวนมาก ด้าน LINE MELODY เสียงเรียกเข้าและเสียงรอสายเมื่อโทรผ่าน LINE Call ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน โดยในปี 2564 มีผู้ใช้งาน LINE MOLODY ต่อเดือนกว่า 2.2 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคมปี 2563 กว่า 600% โดยปัจจุบันมีคลังเพลงทั้งสิ้นกว่า 38,000 เพลงจากกว่า 43 พันธมิตรค่ายเพลงและ Music Distributors ทั้งไทยและต่างประเทศ โดยพันธมิตรรายล่าสุด Universal Music เสริมเพิ่มมาเมื่อกันยายน 2564 นอกจากนี้ยังมีการจัด LINE MELODY MUSIC CHARTS ชาร์ตเพลงยอดฮิต รายงานอันดับเพลงยอดนิยมประจำเดือนจากยอดดาวน์โหลด LINE MELODY ที่สะท้อนผลตอบรับและความนิยมในผลงานเพลง รวมถึงศิลปินได้อย่างชัดเจน เติมเต็มความสนุกและอินเทรนด์ให้กับผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี และเมื่อปลายปีที่ผ่านมา LINE ได้จัด LINE MELODY MUSIC AWARDS CONCERT คอนเสิร์ตลอยฟ้าออกอากาศสดบนขบวนรถไฟฟ้าบีทีเอสทั้ง 88 ขบวน ไปพร้อม ๆ กับการเผยแพร่ในทุกช่องทางออนไลน์ของ LINE MELODY ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของการเชื่อมโยงไลฟ์สไตล์ออนไลน์และออฟไลน์อย่างเต็มรูปแบบบนแพลตฟอร์ม LINE ซึ่งนับเป็นความสำเร็จของ LINE MELODY ในการทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางให้ผู้ใช้งานได้มีความสุขเต็มอิ่มไปกับประสบการณ์ทางดนตรี ขณะที่ LINE ดูดวง มีผู้ใช้บริการเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านคนต่อวัน โดยมีบริการออนไลน์ที่ครอบคลุมตั้งแต่ขอพรแก้บน ตักบาตร ถวายผ้าไตร ทำสังฆทาน แก้ชง และอื่นๆ โดยบริการที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ การขอพร-แก้บนจากหลวงพ่อทันใจ วัดพระธาตุดอยคำ และการแก้ชงในช่วงตรุษจีน โดยตัวเลขผู้ใช้งานจะมีมากขึ้นในช่วงกลางเดือนและปลายเดือนของแต่ละเดือนซึ่งเป็นช่วงการประกาศผลสลากกินแบ่งรัฐบาล รวมถึงมีการใช้งานมากขึ้นในช่วงเทศกาลสำคัญทางศาสนา ช่วงปีใหม่ และตรุษจีน โดยมีตัวเลขผู้ใช้บริการขอพร แก้บน มากกว่า 3,500 คนในปี 2564 ในปี 2565 นี้ เรายังคงมุ่งมั่นสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มของเรา ควบคู่ไปกับการพัฒนา ยกระดับครีเอเตอร์ชาวไทยให้มีศักยภาพแข่งขันได้ในตลาดโลก โดยได้ปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจภายใต้ LINE Consumer Business ด้วยกลยุทธ์ Empowering Thai Creative Culture เพื่อรองรับการเติบโตของวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ และเพิ่มศักยภาพในการเข้าถึงโอกาสทางธุรกิจในอนาคตให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยได้จัดแบ่งธุรกิจออกเป็น 2 กลุ่มหลักภายใต้ LINE Consumer Business ได้แก่ กลุ่มธุรกิจด้านครีเอเตอร์ (LINE CREATORS BUSINESS) นำโดย นางสาวธรรมรดี ไพรพิรุณโรจน์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่าย Consumer Product Business Development กลุ่มธุรกิจบริการภายใต้การโทรด้วยเสียง (VOIP BUSINESS) นำโดย นางสาวกฤษกร เตกิตติพงษ์ หัวหน้าฝ่าย Consumer Product Sales/Marketing นายนรสิทธิ์ กล่าว เดินหน้าพัฒนาครีเอเตอร์เต็มสูบ ลุยธุรกิจเชิงสร้างสรรค์ด้วยหน่วยธุรกิจใหม่ LINE CREATORS BUSINESS กลุ่มธุรกิจ LINE STICKERS ได้ปรับเปลี่ยนและพัฒนาเป็น LINE CREATORS BUSINESS โดยจะมุ่งเน้นไปที่การผลักดันครีเอเตอร์ให้สร้างสรรค์ผลงานในทุกระดับ ตั้งแต่การสร้างสรรค์ผลงานสติกเกอร์ ไปสู่ Commercial Arts ในรูปแบบต่างๆ เช่น Licensing IP Business และ NFT ซึ่งดำเนินการผ่านโปรแกรมการพัฒนาครีเอเตอร์ (Creators Development Program) ใหม่ ซึ่งจะส่งเสริมครีเอเตอร์ในทุกช่วงการเติบโตอย่างเหมาะสมและครบวงจร นอกจากนี้ การเกิดขึ้นของ Non-Fungible Token (NFT) ซึ่งเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่เป็นการแสดงออกถึงผลงานสร้างสรรค์ต่างๆ ในโลกดิจิทัล ยังสร้างโอกาสทางธุรกิจสำหรับครีเอเตอร์มากขึ้นทั้งในระดับโลกและในประเทศไทย โดย LINE CREATORS BUSINESS มีแผนที่จะจัดตั้ง LINE CREATORS Academy เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ที่ข้องเกี่ยวกับ NFT ตั้งแต่ระดับพื้นฐานจนถึงระดับสูงให้แก่ครีเอเตอร์และบุคคลที่สนใจ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ครีเอเตอร์สามารถพัฒนาทักษะและสร้างสรรค์ผลงานเพื่อรองรับตลาด NFT ที่กำลังมาแรงในขณะนี้ได้ และมุ่งหวังที่จะยกระดับตลาด LINE CREATORS NFT ไปอีกขั้น ด้วยการเปิดให้บริการ LINE CREATORS NFT for Business สำหรับธุรกิจที่สนใจนำ NFT ไปต่อยอดในเชิงธุรกิจและการให้บริการ อาทิ การทำ Utility ให้กับแบรนด์เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ และสร้างภาพลักษณ์ให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น โดยในปัจจุบัน LINE ประเทศไทยได้เป็นพันธมิตรกับตลาด NFT (NFT Marketplace) ชั้นนำ อาทิ EAST NFT, Bitkub NFT, Coral by KASIKORN X และ Zixel by Zipmex บุกธุรกิจ VOIP ผ่าน LINE MELODY เสริมประสบการณ์ LINE Call พร้อมบริการใหม่ ดูดวงออนไลน์ เอาใจสายดูดวงผ่าน LINE Video Call จากความสำเร็จอย่างมากของ LINE Call และ LINE VDO Call ที่มีอัตราการใช้งานเติบโตสูงกว่า 20% และ 30% ตามลำดับในปีที่ผ่านมา ทำให้ LINE MELODY กลายเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีศักยภาพมาก เพราะเป็นเครื่องมือที่เสริมประสบการณ์การใช้งานเพิ่มสีสันให้กับการโทรผ่าน LINE Call เป็นอย่างมาก เราจึงยกระดับกลุ่มธุรกิจนี้ ให้เป็น VOIP BUSINESS หรือกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการโทรผ่านอินเตอร์เน็ต โดยในปีนี้จะมีการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ อาทิ ฟีเจอร์ Assign by Friends ที่สามารถระบุเสียงรอสายได้ตามรายชื่อเพื่อนใน LINE (Friends) อีกทั้งยังมีแผนที่จะขยายบริการไปยังกลุ่มผู้ใช้งานที่กว้างขึ้นโดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบเพลงลูกทุ่ง นอกจากนั้น ยังจะเพิ่มบริการดูดวงออนไลน์กับนักพยากรณ์ชั้นนำเต็มรูปแบบ โดยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานสามารถกดจองเวลา จ่ายเงิน และเข้ารับบริการผ่าน LINE VDO Call ได้บนแพลตฟอร์มเดียว ในขณะเดียวกัน เรายังคงให้ความสำคัญในส่งเสริมและยกระดับผลงานศิลปินผ่าน LINE MELODY MUSIC CHARTS และ LINE MELODY MUSIC AWARDS CONCERT อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นช่องทางในการสนับสนุนศิลปินและโปรโมทผลงานเพลงคุณภาพต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจากค่ายเล็กหรือค่ายใหญ่ให้ได้การยอมรับและสร้างความนิยมในหมู่แฟนเพลงผ่าน LINE MELODY อย่างต่อเนื่อง ใน 2 ปีที่ผ่านมา โลกเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก และเป็นที่ชัดเจนว่า คนไทยไม่ได้เพียงแค่คอยปรับตัวตามเท่านั้น แต่มีการปรับตัวที่เร็วเท่าทันโลกเป็นอย่างมาก ไม่ว่าการเปลี่ยนมาทำงานที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ การซื้อของและทำกิจกรรมออนไลน์อย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะเทคโนโลยีของบล็อกเชน ที่คนไทยให้ความสนใจค่อนข้างสูงเป็นประเทศต้นๆ ที่ใช้เริ่มใช้งานกันอย่างแพร่หลาย เราเองที่เป็น Life Platform มีหน้าที่ปรับเปลี่ยนให้ทันการเปลี่ยนแปลงนี้ เพื่อให้สามารถนำศักยภาพของความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย มาผสานและตอบรับเพื่อเทียบเคียงหรือนำหน้า ประเทศชั้นนำในโลกได้ LINE Consumer Business จะเป็นกำลังขับเคลื่อนของภาคธุรกิจที่สำคัญ เพื่อต่อยอดความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรมแบบไทย ให้ไปประจักษ์ต่อสายตาชาวโลก บนเทคโนโลยีใหม่อย่าง NFT หรือการบริการแบบใหม่ที่ตอบสนองต่อชีวิตคนไทย อย่างการดูดวงออนไลน์ นายนรสิทธิ์ กล่าว

ครูไทย“อ่วม”แบกหนี้สิน“1.4ล้านล้าน” I BUSINESS WATCH (คลิป)

เปิดโครงสร้างเงินเดือนครูเทียบเอกชน มีรายได้มากน้อยแค่ไหน เหตุใดหนี้สินล้นพ้นตัว ทะลัก 1.4 ล้านล้านบาท ปัญหาระบบการศึกษาไทยอยู่ตรงไหนพบกับรายการ BUSINESS WATCH ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 21.15 - 22.00 น. และวันอาทิตย์ เวลา 21.00 - 22.00 น. ทาง TNN ช่อง 16 รับชมทางสถานีข่าว #TNN #TNNช่อง16 #TNNLIVE #BUSINESSWATCH เกาะติดข่าวที่นี่website: www.TNNTHAILAND.comfacebook : TNNONLINEfacebook live : TNN Livetwitter : TNNONLINELine : @TNNONLINEYoutube Official : TNNONLINEInstagram : TNN_ONLINETIKTOK : @TNNONLINE

เปิดตัว "Metthier" ผู้ให้บริการระบบ Smart Facility Management รายแรกของไทยด้วย AI, หุ่นยนต์, และเทคฯ สุดล้ำ

Metthier (เมทเธียร์) เปิดตัวบริษัทพร้อมเสนอตัวเป็นผู้ให้บริการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์อัจฉริยะ (Smart Facility Management) แบบครบวงจรรายแรกของไทย เน้นการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง ที่ใช้ทีมบริการหลากหลายด้านเข้ามาจัดการอสังหาริมทรัพย์อัจฉริยะ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา ณ เกษร เออร์เบิร์น รีสอร์ทภาพรวมบริการของเมทเธียร์ (Metthier)Metthier ชูจุดเด่นศูนย์รวมระบบปฏิบัติการสุดล้ำ สร้างแบบจำลองอาคาร 3 มิติ (3D Visualization) และการระบุพิกัดภายในอาคารดิจิทัล (Digital Mapping) พร้อมรองรับมาตรฐานการปฏิบัติงานของแต่ละองค์กร เชื่อมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (IoT) ในพื้นที่ทำงาน พร้อมหุ่นยนต์ที่ต่อยอดสู่บริการแบบใหม่ หวังรองรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ยุคใหม่ในอนาคต ภายใต้แนวคิด RISE ABOVE ORDINARY - ที่เมทเธียร์เราเหนือกว่าด้วยเทคโนโลยีขยล ตันติชาติวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมทเธียร์ จำกัด (Metthier) กล่าวว่า Metthier มีจุดแข็งด้าน Tech Knowhow ที่ส่งต่อจากบริษัทแม่อย่าง SKY บริษัท Tech Company ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และเข้าซื้อกิจการบริษัท รักข์สยาม (SAMCO) ที่มีประสบการณ์ในการดูแลรักษาอาคารและสถานที่ชั้นนำของประเทศไทยศูนย์ปฏิบัติการอัจฉริยะของเมทเธียร์ (Metthier)Metthier พัฒนาศูนย์ปฏิบัติการอัจฉริยะเมทเธียร์ (Metthier Intelligent Operation Center: MIOC) ที่ช่วยบริหารจัดการความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกภายในอาคารหรือพื้นที่ทั้งหมดแบบรวมศูนย์ มีความสามารถในการสร้างแบบจำลองอาคาร 3 มิติ และระบุพิกัดภายในอาคารดิจิทัล ทั้งภาพรวมและภาพแต่ละชั้นของอาคาร สามารถระบุตำแหน่งเหตุการณ์แบบเรียลไทม์ และออกแบบให้รองรับมาตรฐานการปฏิบัติงานของแต่ละอุตสาหกรรมระบบบริหารจัดการกำลังพล (Workforce Management System) เป็นอีกบริการที่ Metthier นำเสนอ ซึ่งช่วยวางแผนกำลังเจ้าหน้าที่ภายในพื้นที่ล่วงหน้า พร้อมบันทึกข้อมูลและจัดทำรายงานผลการทำงานของเจ้าหน้าที่ เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่เกิดความคล่องตัวสูงสุด ทำงานร่วมกับแอปพลิเคชัน MettLink ที่สามารถบันทึกเวลาเข้า-ออกงานด้วยการสแกนใบหน้า ทำให้ตรวจสอบข้อมูลลงเวลาทำงานแบบเรียลไทม์ เชื่อมต่อระหว่างศูนย์ปฏิบัติการและเจ้าหน้าที่ได้ รวมทั้งระบุจุดที่ตั้งของเจ้าหน้าที่และจุดเกิดเหตุ เพื่อให้สามารถแก้ไขเหตุการณ์ ได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงทีรูปแบบ Smart Facility Management ของเมทเธียร์ (Metthier)Metthier นำเสนอบริการ Smart Facility Management ใน 3 รูปแบบ ได้แก่ระบบบริหารจัดการผู้มาติดต่อ (Visitor Management Solutions)ระบบดังกล่าวจะทำงานร่วมกันระหว่าง 3 เทคโนโลยี โดยเทคโนโลยีแรกคือ เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า (Face Recognition) ที่มีความแม่นยำ เข้ามาจัดการและรายงานข้อมูลผู้มาติดต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้มาติดต่อได้รับประสบการณ์ที่ดีและปลอดภัยมากยิ่งขึ้นทันทีในขณะเดียวกันก็เชื่อมต่อกับระบบควบคุมการเข้าออกแบบอัตโนมัติ (Access Control Solution) เพื่อตรวจจับและระงับบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้ามาในพื้นที่ ใช้การประมวลผลด้วย AI และเก็บข้อมูลในคลาวด์ เพื่อการเข้าถึงข้อมูลได้ปลอดภัยและรวดเร็วและเทคโนโลยีระบบจอดรถอัจฉริยะ (Smart Parking Solution) ด้วยการจดจำเลขทะเบียนรถ (License Plate Recognition: LPR) ระบุและแปลอักขระทะเบียนรถได้เรียลไทม์ นอกจากนี้ยังเชื่อมโยงกับระบบลงทะเบียนผู้มาติดต่อ เพื่อระบุบุคคลเข้า-ออกอาคารผ่านทะเบียนรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลการจอดรถเพื่อแนะนำช่องจอดที่เหมาะสมที่สุด เสริมประสิทธิภาพการวางแผนพื้นที่จอดรถและประหยัดเวลาผู้ใช้บริการการให้บริการด้านความปลอดภัย (Security as a Service)Metthier ให้บริการรักษาความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีและเจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยที่ได้รับการอบรมด้านความปลอดภัยอย่างเข้มข้น ให้ผู้ใช้บริการได้รับการดูแลและปลอดภัยในทุกสถานการณ์ ใน 3 รูปแบบบริการ ได้แก่ระบบบริหารจัดการเหตุการณ์ฉุกเฉินอัจฉริยะ (Smart Incident Management) ทำงานเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Smart IoT โดยการใช้ AI ในการวิเคราะห์เพื่อกำหนดลำดับเหตุการณ์ที่มีความสำคัญ แล้วแจ้งเตือนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างทันท่วงทีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (Security Manpower)ด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์ด้านบริการรักษาความปลอดภัย และความสามารถเฉพาะด้านจากการฝึกอบรม เพื่อให้ดูแลความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมให้บริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงการบริหารจัดการทรัพย์สินมูลค่าสูง (High Value Asset Management) สำหรับขนส่งทรัพย์สินที่มีค่าของบุคคล องค์กร และสถาบันการเงินชั้นนำอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ร่วมกับรถขนส่งเกราะที่ถูกออกแบบเพื่อความปลอดภัยสูงสุดการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ (Facility Management Service)ยกระดับการทำงานของการอำนวยความสะดวกภายในอาคารสถานที่ เพื่อให้ผู้รับบริการมั่นใจว่าทุกอาคารสำนักงานและสถานที่ต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ Metthier มีสภาพแวดล้อมที่ดีและสะอาดอยู่เสมอด้วยเทคโนโลยี และรวมถึงผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ซึ่งมีการบริหารพนักงานใน 3 รูปแบบ ได้แก่พนักงานรักษาความสะอาด (Cleaning Manpower) ให้บริการทีมแม่บ้านที่มีความเชี่ยวชาญและถูกคัดเลือกฝึกอบรมอย่างเข้มข้น เพื่อให้มีความเชี่ยวชาญในการให้บริการทำความสะอาดในมาตรฐานที่สูงสุดพนักงานทำความสะอาดเฉพาะทาง (Cleaning Specialist) พนักงานเฉพาะทางในงานต่าง ๆ อาทิ บริการทำความสะอาดกระจกอาคารสูงทั้งภายในและภายนอกอาคาร รวมถึงงานเฉพาะทางต่าง ๆ ที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูงในการดำเนินการ เพื่อให้ผู้รับบริการได้รับผลลัพธ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัยพนักงานซ่อมบำรุงอาคารและงานอาคารสถานที่ (FM Engineer)บริการทีมพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในงานซ่อมบำรุงและดูแลอาคาร เช่น ช่างอาคาร ผู้จัดการอาคาร นักทำสวน หรือเจ้าหน้าที่ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานอาคารสถานที่ เพื่อบริหารจัดการและดูแลรักษาอาคารอย่างมีประสิทธิภาพพร้อมหุ่นยนต์อัจฉริยะ (Smart Robotics) ยกระดับนวัตกรรมด้าน FM ด้วยหุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ดูแลให้ทุกพื้นที่ทั้งการทำงานภายในและภายนอกอาคารเรียบร้อยได้ภายในระยะเวลาสั้น ๆ พร้อมติดตามการทำงานผ่านแดชบอร์ดได้แบบเรียลไทม์การตลาดและการเติบโตของ Smart Facility Management ในไทยMetthier กำลังพัฒนาระบบบริหารจัดการการใช้ทรัพยากรภายในอาคาร (Power Resource Consumption Management) ช่วยวิเคราะห์และวางแผนการใช้พลังงานไฟฟ้า น้ำ และอากาศให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อลดต้นทุนจากการใช้ทรัพยากรที่ไม่จำเป็น ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตอบโจทย์ธุรกิจที่ต้องการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืนในปัจจุบัน Metthier มีบุคลากรกว่า 6,000 คน และตั้งเป้าเพิ่มบุคลากรมากกว่า 10,000 คน ภายในต้นปี 2024 เพื่อผลักดันบริษัทหวังให้เป็นผู้เล่นรายใหญ่รายแรกด้าน Smart Facility Management ที่ล้ำสมัยที่สุดในประเทศไทย และตั้งเป้าขยายฐานลูกค้ากลุ่มเจ้าของหรือผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ ที่ต้องการยกระดับความปลอดภัยและสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีภายในอาคารทั้ง 5 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.โรงงานอุตสาหกรรม 2.โครงการมิกซ์ยูส (Mixed-Use) 3.โรงพยาบาล 4.สถาบันการเงิน 5.สถานศึกษา ในอนาคตต่อไปที่มาข้อมูลและรูปภาพMetthier

Twitter ปรับโปรไฟล์ธุรกิจเป็นสี่เหลี่ยม และมีโลโก้ตามหลังเพิ่ม สำหรับบัญชี Blue for Business

หลาย ๆ คนอาจสงสัยหรือแปลกใจว่าทำไม่ตื่นมาวันนี้รูปโปรไฟล์ในทวิตเตอร์ (Twitter) มีหลายรูปแบบ ทั้งกลม ทั้งเหลี่ยม พร้อมกับมีโลโก้เพิ่มขึ้นมาใหม่ด้านหลังของเครื่องหมายยืนยันติ๊กถูกอีกทีนึง วันนี้ (20 ธันวาคม) ทวิตเตอร์ได้ประกาศเปิดตัว Twitter Blue for Business เครือข่ายรูปแบบใหม่สำหรับธุรกิจบนทวิตเตอร์ สำหรับ Twitter Blue for Business จะมีการเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ อย่าง เช่น การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดที่สุดนั้นจะเป็น รูปโปรไฟล์ ที่เปลี่ยนจากแสดงในวงกลม เป็นสี่เหลี่ยมขอบมนแทน นอกจากนี้ สำหรับธุรกิจลูก หรือพนักงานคนสำคัญที่ทำงานอยู่ในธุรกิจนั้น ๆ จะได้การเพิ่มโลโก้ของธุรกิจหลักอยู่ด้านหลังเครื่องหมายยืนยันด้วย การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ ก็ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ค่อนข้างกระทันหัน จนบัญชี @Oreo ออกมาทวีตบอกว่าหลังจากเห็นรูปโปรไฟล์ใหม่ครั้งแรกก็เตรียมเปลี่ยนชื่อเป็น Squareo กันเลยที่เดียว Us after seeing our new profile picture pic.twitter.com/h0a71i7TyE— OREO Cookie (@Oreo) December 19, 2022

รีวิวหนังสือ The Business School

 เครดิต​รูปภาพ​ Sakura​Kallen เรื่องการเงิน และการลงทุนนั้น เป็นหนึ่งในเรื่องที่สำคั​ญ​อย่างมากสำหรับชีวิตของทุกคน โดยเฉพาะ​อย่างยิ่งคนที่อยู่ในวัยทำงาน แน่นอนว่าวิธีการสร้างรายได้ และเพิ่มรายได้โดยการลงทุนนั้นมีหลายวิธี​ และวิธีที่ง่ายที่สุดสำหรับคนที่กำลังเริ่มต้นก็คือการหาความรู้ วิธีการที่ผมชอบในการหาความรู้คือการอ่านหนังสือ และหนึ่งในหนังสือเกี่ยวกับการเงิน และการลงทุน ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ก็คือหนังสือชุด 'พ่อรวย'​ ที่เขียนโดยคุณโรเบิร์ต คิโยซากิ นั่นเองครับเครดิต​รูปภาพ​ Sakura​Kallen หนังสือของคุณโรเบิร์ต​แต่ละเล่มต่างก็มีใจความสำคัญ​แตกต่างกันไป แต่มีเป้าหมายเหมือนกันคือเปิดมุมมองทางการเงินให้แก่ผู้อ่าน เพื่อให้เป็นอิสระทางการเงินได้โดยเร็ว​ ซึ่งหนังสือแต่ละเล่มของคุณโรเบิร์ต​ก็ช่วยให้ใครหลาย ๆ คน สามารถสร้างฐานะได้เร็วขึ้นเป็นจำนวนมาก หนึ่งในความรู้เรื่องของการลงทุนที่คุณโรเบิร์ต​มักย้ำกับผู้อ่านเสมอในหนังสือแต่ละเล่มคือการทำธุรกิจ และแน่นอนว่าการทำธุรกิจสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท แต่ละประเภทก็มีข้อดี และข้อเสียแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน และหนึ่งในหนังสือที่พูดถึงการทำธุรกิจประเภทหนึ่งเอาไว้อย่างดีเยี่ยมนั่นก็คือหนังสือ The Business School ที่ผมจะมารีวิวในวันนี้ครับเครดิต​รูปภาพ​ Sakura​Kallen หนังสือเล่มนี้เน้นไปที่การทำธุรกิจแบบเครือข่าย ซึ่งเป็นหนึ่งในรูปแบบที่ได้รับความนิยมอย่างมากในขณะนี้โดยเฉพาะธุรกิจออนไลน์​ สังเกตได้ง่าย ๆ จากแบรนด์​ต่าง ๆ ที่มีการรับสมัครตัวแทนจำหน่ายโดยแบ่งออกเป็นแต่ละระดับ หรือที่เรียกกันว่าดาวน์ไลน์นั่นเอง สำหรับใครที่ได้รู้จักตัวอย่างมาแล้วคงจะมีบางส่วนที่รู้สึกอคติกับธุรกิจแบบเครือข่าย ไม่ว่าจะด้วยเพราะเหตุผลอะไรก็ตาม แต่ไม่ว่าคุณ​จะเป็นคนที่สนใจ หรือมีอคติกับธุรกิจแบบเครือข่าย เมื่อมาอ่านหนังสือเล่มนี้ความคิดของคุณจะเปลี่ยนไปในทันที ตัวผมเองแม้ว่าจะยังไม่ค่อยเข้าใจการทำงานของธุรกิจแบบเครือข่ายเท่าไหร่ แต่พอมาอ่านหนังสือเล่มนี้สักสองสามรอบ ก็เริ่มเห็นภาพที่กว้างใหญ่ขึ้น มีมุมมองทางธุรกิจ และการลงทุนที่ลึกซึ้ง​ขึ้น เพราะคุณ​โรเบิร์ต​ไม่ได้พูดถึงธุรกิจ​แบบเครือข่าย​เพียงอย่างเดียว แต่ส่วนใหญ่​จะพูดถึงภาพใหญ่​ของการลงทุน แล้วค่อยนำธุรกิจแบบเครือข่ายมาเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียกับแบบอื่น ๆ มากกว่าเครดิต​รูปภาพ​ Sakura​Kallen สำหรับใครที่ไม่มีความสนใจในธุรกิจ​แบบเครือข่าย​ก็สามารถอ่านได้ เพราะหนังสือเล่มนี้มีความรู้ที่มีคุณค่า​ที่ไม่ได้มีบอกเอาไว้ในหนังสือเล่มอื่น ๆ อยู่ไม่น้อย ซึ่งถ้าใครได้อ่าน และสามารถต่อยอดไปได้อย่างน้อยหนึ่งขั้น จะสามารถพัฒนา​ความรู้ความสามารถเกี่ยวกับธุรกิจ และการเงินของตนเองไปได้มากอย่างแน่นอน หนึ่งในเสน่ห์​การเขียนของคุณโรเบิร์ต​คือมีการอธิบายสิ่งที่ยากให้เป็นคำพูดง่าย ๆ แต่มองเห็นภาพ และลึกซึ้ง​ ช่วยทำให้ความคิดของผู้อ่านแตกฉานมากยิ่งขึ้น ต่อให้เป็นคนที่ไม่เคยรู้เรื่องธุรกิจ หรือเคยอ่านหนังสือชุดพ่อรวยมาก่อน ก็สามารถอ่านให้เข้าใจได้ไม่ยาก หนังสือเล่มนี้ผมยืมมาจากห้องสมุด แต่สำหรับคนที่ต้องการซื้อก็มีขายตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป ราคาอยู่ที่เล่มละ 185 บาท เป็นของสำนักพิมพ์​ซีเอ็ดครับเครดิต​รูปภาพ​ Sakura​Kallen เป็นหนึ่งในหนังสือทรงคุณค่า​สำหรับการเรียนรู้เรื่องธุรกิจ และการเงินเป็นอย่างมาก สำหรับใครที่ต้องการเรียนรู้ หรือต้องการต่อยอดอย่าลืมไปหามาอ่านกันนะครับ 

เดอะวัน เปิดตัว “The 1 for Business” เจาะกลุ่มลูกค้าภาคธุรกิจ ชู 3 โซลูชั่น

ข่าววันนี้ นายกวิน ตั้งอุทัยศักดิ์ กรรมการผู้อำนวยการ เดอะวัน กล่าวว่า ปี 2564 เป็นอีกปีที่ The 1 สามารถสร้างการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด โดยมีรายได้รวมและผู้ใช้งานแอป The 1 โตขึ้นมากว่า 30% แม้จะอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ความสำเร็จนี้เป็นผลจากการทรานสฟอร์มองค์กร ปรับวิธีการทำงาน และได้ทีมงานคนรุ่นใหม่มาร่วมทีมเพื่อมุ่งพัฒนาประสบการณ์ที่ดีที่สุดบนแอป The 1 โดยปัจจุบันมียอดสมาชิกมากกว่า 19 ล้านราย และมีการใช้จ่ายคะแนน The 1 สูงถึง 14 พันล้านคะแนนต่อปี สำหรับเป้าหมายหลักในปี 2565 The 1 จะยังคงมุ่งพัฒนาประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ผู้บริโภคผ่านแอป The 1 ตามแนวคิด Your Everyday Lifestyle Platform ทั้งด้านคอนเทนต์ใน The 1 Today และรีวอร์ดต่างๆ จากพาร์ทเนอร์ รวมถึงความสามารถด้าน MarTech และ Personalization แบบ Real Time Right Moment และไฮไลท์ในปีนี้คือ การพัฒนาโซลูชั่นสำหรับภาคธุรกิจใหม่ล่าสุดคือ The 1 for Business ที่จะช่วยให้พาร์ทเนอร์ใน ecosystem สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการทำธุรกิจ ซึ่งเราต่อยอดจากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของ The 1 กว่า 15 ปีได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และเป็นกำลังขับเคลื่อนสำคัญที่จะสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้ The 1 นายกวินกล่าว นายกฤษณะ งามสม Head of Business The 1 กล่าวว่า The 1 for Business เป็นโซลูชั่นสำหรับธุรกิจที่คิดขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การตลาดดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วยดาต้า ภายใต้แนวคิด Customer First, Data First ที่ให้ความสำคัญกับความเข้าใจลูกค้าเป็นพื้นฐาน และเป็น Business Enabler ที่ช่วยให้ธุรกิจของพาร์ทเนอร์สามารถก้าวไปอีกขั้นเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค โดยเป็นผู้ให้บริการรายแรกในประเทศไทย ที่เปิดให้ธุรกิจและร้านค้าต่างๆ สามารถเชื่อมต่อระบบลอยัลตี้แพลตฟอร์ม ผ่าน The 1 BIZ Connect ที่พร้อมใช้งาน และสามารถสร้างการเติบโตได้ทันทีแบบ Ready-to-Scale โดยไม่ต้องลงทุนพัฒนาแพลตฟอร์มของตัวเองและสามารถปรับใช้ได้กับทุกธุรกิจ ด้วยจุดเด่นในการเชื่อมต่อเข้าระบบสะสมคะแนนของ The 1 ที่แข็งแกร่งและฐานสมาชิกที่เหนียวแน่นกว่า 19 ล้านคน รวมทั้งข้อได้เปรียบด้านดาต้าที่มีความเข้าใจสมาชิกแบบ 360 องศา จากการวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมการซื้อสินค้ากว่า 10 ล้าน SKUs และความสนใจจากข้อมูลการใช้งานแอป The 1 ซึ่งจะช่วยติดสปีดให้ธุรกิจที่เข้าร่วมสามารถบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ The 1 for Business ประกอบด้วย 3 โซลูชั่น ที่สามารถ customize ได้ตามวัตถุประสงค์ทางธุรกิจและการตลาดของพาร์ทเนอร์ที่ตอบโจทย์หลากหลายรูปแบบการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจรีเทล, แฟชั่นและความงาม, อาหารและเครื่องดื่ม, ท่องเที่ยว, ขนส่งและยานยนต์, สถาบันทางการเงิน, สื่อและความบันเทิง, อสังหาริมทรัพย์, โรงพยาบาล, สายการบิน ฯลฯ พร้อมเปิดรับทั้งธุรกิจที่มีระบบสะสมคะแนนของตัวเองแล้วหรือยังไม่มีเลยก็ตาม ซึ่งทีมงาน The 1 for Business พร้อมให้คำแนะนำทั้งเชิงกลยุทธ์และการนำไปใช้งานด้วย 3 โซลูชั่นหลัก ที่มาพร้อมเครื่องมือและซอฟท์แวร์ ที่จะช่วยให้พาร์ทเนอร์สามารถเข้าถึงและใช้งานทั้งระบบหน้าบ้านและหลังบ้านได้สะดวกมากขึ้น โจทย์ที่ท้าทายของธุรกิจในวันนี้ คือการปรับตัวให้สอดรับกับ Digital Disruption, พฤติกรรมของลูกค้า หรือแม้แต่ Media landscape ที่เปลี่ยนไป ก่อให้เกิดข้อจำกัดต่างๆ ที่ทำให้กลยุทธ์การตลาดแบบเดิมไม่มีประสิทธิภาพเหมือนก่อน ในขณะที่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงคือ เป้าหมายของทุกธุรกิจในการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ลูกค้า ซึ่งการติดอาวุธให้ธุรกิจด้วยวิธีการและเครื่องมือรูปแบบใหม่ รวมถึงการ Partnership กับผู้เชี่ยวชาญเพื่อเติมเต็มศักยภาพในส่วนที่ขาด เป็นอีกทางเลือกสำหรับธุรกิจที่ต้องการก้าวไปอีกขั้น ซึ่งทั้ง 3 โซลูชั่น จาก The 1 for Business จะช่วยตอบโจทย์ให้ธุรกิจสามารถพัฒนาฐานข้อมูลลูกค้าของตัวเองให้แม่นยำมีมิติมากขึ้น และนำไปใช้ในการกำหนดกลยุทธ์การตลาดเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้า รวมทั้งสามารถรักษาลูกค้าเดิม เข้าถึงลูกค้าใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นายกฤษณะกล่าว

ผู้ใช้ WhatsApp Business โต 4 เท่า แตะ 200 ล้านคนทั่วโลก

มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก CEO บริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์ ระบุว่า ขณะนี้ วอตส์แอป บิสซิเนส (WhatsApp Business) แอปพลิเคชั่นในเครือที่เน้นการใช้งานเชิงธุรกิจ มีจำนวนผู้ใช้งานมากกว่า 200 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้น 4 เท่า จากเมื่อ 3 ปีก่อนจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นมาจากการเปลี่ยนแปลงของ เมตา ที่มุ่งเน้นพัฒนาการส่งข้อความสำหรับธุรกิจ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนทำให้ธุรกิจโฆษณาของบริษัทชะลอตัวลงเมตา ระบุว่า จะเริ่มทดสอบฟีเจอร์ต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กแสดงโฆษณาที่คลิกต่อไปยังแพลตฟอร์มการส่งข้อความได้โดยไม่จำเป็นต้องมีบัญชีเฟซบุ๊กธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) จะสามารถส่งข้อความส่วนบุคคล อาทิ การแจ้งเตือนนัดหมาย และการปรับปรุงข้อมูลเกี่ยวกับการลดราคาช่วงเทศกาลวันหยุดให้กับลูกค้าที่ยอมจ่ายค่าธรรมเนียมทั้งนี้ เมตา เร่งเครื่องสร้างรายได้ให้กับแอปพลิเคชั่นส่งข้อความ ทั้ง วอตส์แอป และ เมสเซนเจอร์ (Messenger) เนื่องจาก ซักเคอร์เบิร์ก มองว่า ธุรกิจส่งข้อความเป็นเสาหลักถัดไปของบริษัท" style="height: 370px;">ที่มาข้อมูล : TNN ONLINEที่มาภาพ : TNN

KTBST: RBF (BUY / Bt29.00) Hemp and CBD business on track, robust growth outlook in 2022E

รีวิวเกมขายเบเกอรี่ Beker Business 3

สำหรับบทความนี้จะมาเอาใจคนที่ชื่นชอบขนมหวานแบบเรา อยากจะชวนมาเปิดร้านขายขนมกันค่ะ เกมนี้มีชื่อว่า Beker Business 3 เป็นเกมเปิดร้านขายขนมจำพวกเบเกอรี่ค่ะเราจะมีครัว ที่มีเตาอบ เอาไว้อบขนมของเรา ซึ่งระยะเวลาทำขนมแต่ละชนิดก็จะแตกต่างกันไป แต่ว่าไม่นานจนเกินไป เราว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยแหละค่ะ พออบขนมเสร็จ ก็เอามาวางที่หน้าร้าน จะมีออร์เดอร์มาเรื่อย ๆ และระหว่างที่เรารอการอบขนมเสร็จสิ้น ก็มาขายพวกที่อยู่หน้าร้านรอค่ะ ชิลมาก บางทีได้ทิปด้วยนะคะเงินในเกม คล้ายเงินจริงมากค่ะ ตอนเริ่มเล่นทีแรก เกมให้ซื้อพวกวัตถุดิบมาทำขนมใช่ไหมคะ เราตกใจนิดหน่อย ว่าให้ใช้เงินจริงซื้อหรอ ? แต่เนื่องด้วยเกมเป็นภาษาอังกฤษนะคะ ก็พอจะอ่านออกว่าไม่ใช่เงินจริง เราก็โอเค ซื้อเพลินเลยทีนี้การทำขนมและขายขนมนี้ก็มีการอัพเลเวลนะคะ พอเราผ่านจากเลเวลหนึ่งไปสู่อีกเลเวลหนึ่ง เกมก็จะให้เราเลือกขนม ที่เราต้องการสูตรมาทำ เราก็จะสามารถทำขนมนั้นได้ค่ะ บางเลเวลเราจะสามารถขยายร้านของเราได้ด้วย เพื่อที่จะมีพื้นที่สำหรับขนมอื่น ๆ ค่ะในการอบขนม ก็จะมีโฆษณาให้รับชมด้วยนะคะ สำหรับใครที่ใจร้อน หรือต้องการให้ขนมเสร็จเร็ว ๆ อยากขาย ก็สามารถดูโฆษณาได้เลยค่ะ เวลาการอบขนมก็จะเหลือน้อยลงเราว่าเกมนี้เหมาะสำหรับทาสขนมหวานแบบเรา เพราะขนมในเกมน่ารักมาก รวมทั้งเกมไม่หัวร้อนค่ะ เล่นได้เรื่อย ๆ ชิล ๆ ทำขนมอย่างมีความสุขไปเลย เหมาะกับเวลานั่งรออะไรสักอย่างและไม่มีอะไรทำ หยิบเกมมาขายขนมรอ เป็นต้นสำหรับเกมนี้เราว่ายังขาดอีกอย่าง คือ การเชื่อมต่อเกมกับบัญชีอื่น ๆ เช่น FACEBOOK เราอยากจะให้มีการเชื่อมต่อกับบัญชีอื่น ๆ ไว้ เพราะหากวันไหนเปลี่ยนเครื่องใหม่ เกมเราจะยังคงเดิม ไม่ต้องเริ่มเล่นใหม่ใครที่ชื่นชอบขนมหวาน ชื่นชอบการเปิดร้านขายเบเกอรี่ ซึ่งเราคิดว่ามันเป็นความฝันของใครหลาย ๆ คนเลยล่ะ มาร่วมสานฝันให้เป็นจริง โดยดาวน์โหลดเกมได้ที่ https://play.google.com/store/apps/details?id=com.livingcodelabs.bakerbusiness3fbclid=IwAR2a8IO0tnnVDGkiEWcXyaE7bERjLW0SLf0ylLKD-UutTPEEK0-MZDthOLI ขอขอบคุณภาพปกบทความและภาพประกอบบทความทั้งหมดจากเกม Beker Business 3